ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Gop » Fri Oct 07, 2011 6:27 pm

sleepless wrote:
Gop wrote:ผมกำลังคิดว่า คุณ sleepless กำลังกังวลกับสิ่งที่เป็น "เปลือก" ของศาสนาครับ ที่ผมกังวลกว่า คือการสั่งสอน ไม่ใช่การกราบไหว้ครับ


โทษนะ คนที่สนใจแต่เปลือกคือพระเกษมครับ

กิเลสในใจมีมากมายหลายร้อยประการที่ทำให้มนุษย์ยึดติด

กลับมาเลือกสอนให้ชาวบ้านเลิกยึดติดกับพระพุทธรูปที่เป็นวัตถุสมมุติที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นทางกุศล

กิเลสที่เป็นทางไปสู่อกุศลมันก็นั่งยิ้มสิทีนี้ มีตัวช่วย

คุณว่าบ้าหรือเปล่า? :)


คุณตัดมาแค่นี้ไม่ทราบว่าอ่านหมดหรือเปล่า ผมขอถามเพื่อความกระจ่างหน่อยนะครับ

คุณ sleepless ลองบอกมาหน่อยสิครับ ว่าพระเกษมสอนอะไรบ้างที่ไม่เข้าท่า นอกจากเรื่องไม่ยึดติดกับพระพุทธรูป ที่คุณยังไม่แน่ใจเลยว่าผิดหรือเปล่า

อย่าบอกนะครับว่ามีเรื่องนี้เรื่องเดียว

User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Fri Oct 07, 2011 7:35 pm

ที่คุยกับคุณ sleeples เรื่องพระเกษมมาเนิ่นนาน ....

ก็เพราะเหตุว่าคุณ sleeples เป็นตัวอย่างของพุทธตามทะเบียนบ้านเพราะเข้าใจหลักธรรมของพุทธเพียงเปลือกและพิธีกรรมภายนอก เพราะแก่นหัวใจของพุทธอย่างหลักธรรมที่ควรจับใว้ให้มั่นกลับเหมือนปล่อยปละละเลย แต่เปลือกกระพี้ของพุทธที่ปล่อยปละละเลยได้ กลับเอาไปถือมั่นกอดใว้เสียแน่น
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Get_Backer » Fri Oct 07, 2011 7:41 pm

เรื่องเหล่านี้ผมความรู้น้อย
แต่ขอยกเอาข้อความนี้เพื่อให้พิจารณากันครับ

"เนื่องจากธรรมที่ให้ถึงความบริสุทธิ์ มีลักษณะการอธิบายได้อย่างหลากหลาย ทั้งต่างสถานที่ ต่างบุคคล ต่างสถานการณ์
ดังนั้น ทางหรืออุบายจึงมีต่างระดับกัน เพราะภูมิธรรมของบุคคลและจริตอัธยาศัยความชอบไม่เหมือนกัน
อุบายหรือทางต่างระดับนี้ แต่ละระดับมีขีดความสามารถไปถึงจุดหมายไม่เท่ากัน
ระดับต่ำเป็นพื้นฐานไปสู่ระดับสูง เมื่อใช้เส้นทางระดับต่ำจนสุดทางที่ระยะหนึ่งแล้ว
จำเป็นต้องผ่านจุดเชื่อมทาง เพื่อไปใช้เส้นทางอีกระดับที่สูงกว่าไปได้ไกลกว่าแทน จึงจะถึงจุดหมายได้"

มนุษย์มีสี่จำพวก จะเข้าถึงธรรมได้ต่างกัน




"การยึดติดในพระพุทธรูป การไม่ยึดติดในพระพุทธรูป ก็คือยึดติด"

"ยึดติดในทุกข์ ยึดติดในสุข ก็คือยึดติด"

"ไม่ทุกข์ ไม่สุข คือปกติ"
User avatar
Get_Backer
 
Posts: 93
Joined: Mon May 31, 2010 12:17 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Anubitz » Sat Oct 08, 2011 4:36 am

Get_Backer wrote:เรื่องเหล่านี้ผมความรู้น้อย
แต่ขอยกเอาข้อความนี้เพื่อให้พิจารณากันครับ


"การยึดติดในพระพุทธรูป การไม่ยึดติดในพระพุทธรูป ก็คือยึดติด"

"ยึดติดในทุกข์ ยึดติดในสุข ก็คือยึดติด"

"ไม่ทุกข์ ไม่สุข คือปกติ"




เคยมีคนบอกผมว่าหลักธรรมในศาสนาพุทธนั้น ฟังแล้ว เข้าใจแล้ว ก็อาจไม่ได้เข้าใจจริง มันต้องสัมผัสหรือประสบกับตัวเองถึงจะเข้าถึง

ขอบคุณมากครับ
User avatar
Anubitz
 
Posts: 478
Joined: Sat Sep 17, 2011 5:28 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby ตกสำรวจ » Sat Oct 08, 2011 5:46 am

Get_Backer wrote:เรื่องเหล่านี้ผมความรู้น้อย
แต่ขอยกเอาข้อความนี้เพื่อให้พิจารณากันครับ

"เนื่องจากธรรมที่ให้ถึงความบริสุทธิ์ มีลักษณะการอธิบายได้อย่างหลากหลาย ทั้งต่างสถานที่ ต่างบุคคล ต่างสถานการณ์
ดังนั้น ทางหรืออุบายจึงมีต่างระดับกัน เพราะภูมิธรรมของบุคคลและจริตอัธยาศัยความชอบไม่เหมือนกัน
อุบายหรือทางต่างระดับนี้ แต่ละระดับมีขีดความสามารถไปถึงจุดหมายไม่เท่ากัน
ระดับต่ำเป็นพื้นฐานไปสู่ระดับสูง เมื่อใช้เส้นทางระดับต่ำจนสุดทางที่ระยะหนึ่งแล้ว
จำเป็นต้องผ่านจุดเชื่อมทาง เพื่อไปใช้เส้นทางอีกระดับที่สูงกว่าไปได้ไกลกว่าแทน จึงจะถึงจุดหมายได้"

มนุษย์มีสี่จำพวก จะเข้าถึงธรรมได้ต่างกัน




"การยึดติดในพระพุทธรูป การไม่ยึดติดในพระพุทธรูป ก็คือยึดติด"

"ยึดติดในทุกข์ ยึดติดในสุข ก็คือยึดติด"


"ไม่ทุกข์ ไม่สุข คือปกติ"



ผมชอบแฮะ เพราะผมคิดเสมอๆว่า......."การไม่ยึดติด" ก็คือการยึดติด.....อยู่กับ"การไม่ยึดติด" :D

ส่วน"ไม่ทุกข์ ไม่สุข คือปกติ"..................สำหรับผม"ทุกข์" หรือ "สุข" คือเรื่องธรรมดาของชีวิต นีแหละรสชาติของชีวิต เผชิญกับปัญหาก็แก้กันไป
User avatar
ตกสำรวจ
 
Posts: 81
Joined: Fri Jan 07, 2011 9:14 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby rakchart thai » Sat Oct 08, 2011 9:17 am

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:หลงประเด็นแล้วครับ เอาสั้นๆนะครับ ในความหมายของผม ....

กราบพระพุทธรูปทุกวันแต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

ไม่กราบพระพุทธรูป แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

ทีนี้ลองแย้งมาครับ


ผมแย้งไปแล้วไง แต่คุณ เช ไม่เข้าใจเอง :)

ผมลองใหม่นะ Logic 101

1) กราบพระพุทธรูปทุกวันแต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

2) ไม่กราบพระพุทธรูป แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

3) เลิกกราบพระพุทธรูป แต่ไม่รักษาปัญจะศีลให้บริสุทธิ์ ชีวิตต้องพบกับความเดือดร้อนแน่

4) กราบพระพุทธรูปทุกวัน แต่รักษาปัญจะศีลได้บริสุทธิบริบูรณ์ ชีวิตจะไม่พบกับความเดือดร้อนเลย

จากที่กล่าวมาข้างต้น ทั้ง 4 ข้อ เราสามารถสรุปได้ว่า การกราบหรือไม่กราบพระพุทธรูปมันไม่ได้มีผลใดๆ เลย


อันนี้สรุปเอาแบบทางโลกเลยนะ
คุณเช มีข้อแย้งตรรกะข้างบนหรือเปล่า :D


จริงๆ ไม่ว่าพระพุทธรูป พระธรรม แม้แต่องค์ตถาคตเอง ถ้ายึดติด ก็จะเข้าไม่ถึงธรรม ..
ให้พิจารณา หลักกาลามสูตร ให้ถ่องแท้ จะเข้าใจว่าแม้แต่องค์ตถาคตเองยังไม่ให้เชื่อในพระองค์และคำสั่งสอน ..
ผมต้องขอยืม ที่ท่านเชกล่าวมา .. ให้พิจารณาโดยตัดการยึดติดว่าเป็นพุทธศาสนาออกดู ..แล้วจะเข้าใจว่า หลักธรรมขององค์ท่าน ใช้ได้กับทุกผู้ทุกนาม ทุกศาสนา ...

พระพุทธองค์จึงทรงแสดงกาลามสูตร ว่าด้วย วิธีปฏิบัติต่อสิ่งที่ตนสงสัย
หรือหลักความเชื่อ 10 ประการ เป็นหลักตัดสิน คือ

1. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามๆ กันมา
2. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆ กันมา
3. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ
4. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์
5. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก
6. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะการอนุมาน
7. อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล
8. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว
9. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้
10. อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

เมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นอกุศลหรือมีโทษเมื่อนั้นพึงละเสีย
และเมื่อใดสอบสวนจนรู้ได้ด้วยตนเองว่า..ธรรมเหล่านั้นเป็นกุศลหรือไม่มีโทษ
เมื่อนั้นพึงถือปฏิบัติ

ดังนั้น พระสูตรนี้ท่านมิได้ห้ามมิให้เชื่อ แต่ให้เชื่อด้วยมีปัญญาประกอบด้วย
มิฉะนั้นความเชื่อต่างๆ จะไม่พ้น "ความงมงาย" และไม่พึงแปลความเลยเถิดไป
ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนไม่ให้เชื่อสิ่งเหล่านี้ และให้เชื่อสิ่งอื่นนอกจากนี้
แต่พึงเข้าใจว่า แม้แต่สิ่งเหล่านี้ซึ่งบางอย่างก็เลือกเอามาแล้วว่า..
เป็นสิ่งที่น่าเชื่อที่สุด ท่านก็ยังเตือนไม่ให้ปลงใจเชื่อ
ไม่ให้ด่วนเชื่อ ไม่ให้ถือเป็นเครื่องตัดสินเด็ดขาด
ยังอาจผิดพลาดได้ ต้องใช้ปัญญาคิดพิจารณาให้ดีก่อน


ปล.. ที่ท่านเช ชี้แนะเหมือนเป็นสมภารเก่าเลย :mrgreen: :mrgreen:
User avatar
rakchart thai
 
Posts: 454
Joined: Thu May 20, 2010 11:58 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Get_Backer » Sat Oct 08, 2011 10:23 am

Anubitz wrote:
Get_Backer wrote:


เคยมีคนบอกผมว่าหลักธรรมในศาสนาพุทธนั้น ฟังแล้ว เข้าใจแล้ว ก็อาจไม่ได้เข้าใจจริง มันต้องสัมผัสหรือประสบกับตัวเองถึงจะเข้าถึง

ขอบคุณมากครับ


ใช่ครับการสัมผัสสภาวะธรรมนั้นเป็น "ปัจจัตตัง"



"การยึดติดในพระพุทธรูป" สภาวะที่ละเอียดขึ้นคือ "การไม่ยึดติดในพระพุทธรูป"
สภาวะที่ละเอียด ละเอียดและละเอียดขึ้นไปอีกคือ "การไม่ยินดียินร้าย"
อธิบายเป็นตัวอักษรก็ประมาณนี้ละครับ
User avatar
Get_Backer
 
Posts: 93
Joined: Mon May 31, 2010 12:17 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby ธนุส แดน นิราลัย » Sat Oct 08, 2011 10:42 am

โอโหยังลากกันมาได้ถึง 8 เพจได้นะครับ ผมว่าผมแสดง พรหมวิหาร 4 ไปแล้ว
จนถึง ข้อ 4 ไปแล้วนะครับเนี่ย 555 ยังอดเข้ามาไม่ได้จริงๆ ว่าทำไมยังมาถึง 8 เพจ
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
User avatar
ธนุส แดน นิราลัย
 
Posts: 206
Joined: Sun Aug 14, 2011 4:35 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sat Oct 08, 2011 3:43 pm

เช neverdie wrote:
sleepless wrote:สรุปชัดๆ อีกที
ตอนอยู่บ้าน คุณเชกราบ

1) พระพุทธรูป หรือ
2) รูปบรรพบุรุษ หรือ
3) ฝาบ้าน

เพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้า?

เอาให้ชัดๆ ครับ คนรอฟังอยู่เยอะ :)


ตอบไปหลายทีแล้วครับ

ผมกราบพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ครับ เหตุผลเพราะการกราบพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์

ก็คือการกราบพระพุทธองค์นั่นเอง

เจริญพร

;) ;)



เช neverdie wrote:
เหมือนเดิมครับ กราบไปที่พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ครับ ส่วนจะกราบไปทางทิศไหนกราบลงบนอะไรสำหรับผมไม่ใช่สิ่งที่สำคัญ มันเป็นเพียงกระพี้ ไม่ใช่แก่นสาร ส่วนที่เป็นสาระจริงๆก็คือเราตั้งจิตกราบอะไรต่างหาก ถ้าคุณตั้งจิตกราบปูนปั้นที่คุณคิดว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์คุณก็ได้กราบปูนปั้น ถ้าคุณตั้งจิตกราบพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระพุทธองค์คุณได้ระลึกถึงธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนใว้ด้วย

ชาวพุทธส่วนมากเลือกจะมอมเมาจิตใจตนเองด้วยกระพี้พิธีกรรม แล้วโยนทิ้งแก่นแท้ความเป็นพุทธในหลักธรรมของตถาคต

นี่คือคำตอบสุดท้ายครับ





คุณเช คำตอบของคุณเป็นที่น่าผิดหวังของผู้ชมเป็นอันมาก :)

คุณไม่เห็นหรือเว่าคุณกำลังติดยึดกับการ "ไม่กราบไหว้พระพุทธรูป"

คุณกำลังสร้างอัตตาขึ้นมาตัวหนึ่งเรียกว่า "คนไม่ยึดติดกับการกราบไหว้พระพุทธรูป"

แล้วคุณก็แบกอัตตานั้นไปเรื่อยๆ หา ทางลงไม่ได้

แม้กระทั่งคำถามง่ายๆ ว่าตอนกราบพระพุทธรูป คุุณหันไปทางไหน คุณยังไม่กล้าตอบ ต้องแกล้งตอบ ไปซ้ายที ขวาที (ไม่อยากจะเรียกว่าโกหก) เพราะคุณรู้ว่าหากตอบตรงๆ จะทำให้ภาพลักษณ์การเป็น "คนไม่ยึดติดกับการกราบไหว้พระพุทธรูป" ของคุณมันกระทบกระเทือน และตอบคำถามต่อไปของผมไม่ได้


เช neverdie wrote:งั้นก็ไม่น่าจะลำบากไปใกลถึงขนาดนั้น

อยู่บ้านปิดทองไม่ได้หรือครับ เพราะอะไร

อยู่บ้านใหว้พระไม่ได้หรือครับ เพราะอะไร



อันนี้ยิ่งแปลกหนัก ไหนว่ามีสมาธิดีไง :)
ผมบอกอยู่แหม่บๆ ว่าที่บ้านไม่มีพระพุทธรูป
จะให้ปิดทอง ไหว้พระ และถ่ายรูปที่บ้านได้รึ
ถามพิลึกเนาะ คุณว่ามั๊ย :)
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Sat Oct 08, 2011 3:47 pm

..... ;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sat Oct 08, 2011 3:50 pm

Anubitz wrote:ผมหมายถึงว่า คำว่าสุดโต่ง เนี่ย มันคือสิ่งที่ัทั่วไปมองว่ามันเกินไปในทัศคติคนคนเหล่านั้นหรือเปล่า ไม่เกี่ยวอะไรกับซากหมาเลยครับ


ก็ผมตอบแล้วไงว่าคุณสร้างพระพุทธรูปด้วยอิฐปูนเพื่อเอาไว้ใช้เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้ามันไม่ได้เรียกว่าสุดโต่ง
เรายังเป็นปุถุชน มันยังต้องใช้สิ่งสมมุตมาเพื่อให้มองเห็นง่าย ไม่เก้ๆ กังๆ เวลากราบไหว้
พระพระพุทธรูปที่สร้างด้วยอิฐปูนก็เป็นสิ่งพอเหมาะพอสม
แต่หากคุณเอาซากหมามาแทนพระพุทธเจ้านี่เรียกว่าสุดโต่ง
หรือคุณไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไร เหมาะสม อะไรไม่เหมาะสม?

Anubitz wrote:อีกคำถามทีสำคัญกว่า คุณ sleepless ยังไม่ตอบเลยครับ คือ การไม่ยึดติดจริงๆเป็น อย่างไร


อันนี้ผมไม่รู้หรอก ผมยังยึดติดกับการกราบพระพุทธรูปอยู่เลย
คุณไปถามคุณเชสิว่าการไม่ยึดติดมันเป็นยังไง
คุณเชเขาอยู่เหนือสมมุติได้แล้ว :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sat Oct 08, 2011 3:57 pm

ter162525 wrote:คุณ sleepless คุณกราบ พระพุทธรูปเพราะอะไร ครับ ถามหน่อย แล้วที่ผมเห็นคนที่กราบพระพุทธรูปเพราะระลึกถึงพระพุทธเจ้านั้นน้อย มาก ส่วนใหญ่จะเชื่อว่าศักด์สิทธิ์บันดาลนั้นนี้ได้ อันนั้นมันเป็นไปแล้ว มันเหมือนเณรส่องบาตรเข้าไปทุกวี่ทุกวัน จนเราลืมแก่นแท้ของธรรมะ ไปแล้วหรือเปล่า การสอนมันอาจจะไม่ถูกใจคุณ หรือใครแต่คนที่เขาพิจราณา เขาจะเห็นความจริงที่เราๆท่านเป็นกัน ท่านอาจจะบอกว่าพระเกษม ทำให้คนจากเกาะฟางเปลี่ยนเป็นขี้หมาลอย น้ำ แต่ผมก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นอย่างนั้นเพราะท่านก็บอกให้เราช่วยตัวเอง พระพุทธเจ้าก็สอนให้เราช่วยตัวเอง พระองค์ยังท่านบอกแค่พระองค์เป็นป้ายบอกทางเท่านั้น แล้วผมก็ไม่ได้บอกว่าวิธีการสอนของพระเกษมถูกหรือผิด เพราะเราไปยึดอะไรไม่ได้ ต้องเอาธรรมไปจับ ว่าอะไรเป็นประโยชน์อะไรเป็นสาระที่แท้จริงของมัน ผมเพียงชี้สาระให้ดูว่าสาระจริงมันอยู่ตรงนี้



แต่ก่อนตอนยังเด็กๆ ผมก็กราบตามๆ เขาไป

พอได้มาศึกษาพุทธศาสนาจริงจัง ผมกราบพระพุทธรูปเพื่อแสดงความนับถือและยกย่องในตัวพระพุทธเจ้า

คุณกับพระเกษมมีปัญหาอะไรกับการกราบพระพุทธรูปของผมหรือ?

กิเลสในใจมีไม่ไปค้นหา มายุ่งเกี่ยวกับเรื่องกระพี้ของคนอื่นว่าเขาจะกราบไหว้อิฐปูน

พระเกษมกิเลสขี่คออยู่ตัวเบ้อเริ่ม ตัวเองกลับมองไม่เห็น
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sat Oct 08, 2011 4:05 pm

Gop wrote:คุณ sleepless ลองบอกมาหน่อยสิครับ ว่าพระเกษมสอนอะไรบ้างที่ไม่เข้าท่า นอกจากเรื่องไม่ยึดติดกับพระพุทธรูป ที่คุณยังไม่แน่ใจเลยว่าผิดหรือเปล่า


แล้วผมพูดเรื่องอื่นของพระเกษมเหรอครับ?
ที่ผมพูดว่าไม่แน่ใจนั้น พูดเผื่อคุณ
แต่สำหรับผมนั้น แน่ใจว่าพระเกษมกำลังหลง กิเลสมันปั่นหัวเล่น
ผมจึงกล้าออกมาพูด
ขอโทษนะคุณ

Gop wrote:อย่าบอกนะครับว่ามีเรื่องนี้เรื่องเดียว


คุณเห็นผมเขียนเรื่องพระัเกษมกี่เรื่องหล่ะครับ
แล้วมันมีปัญหาอะไรหรือเปล่าหากผมจะพูดเรื่องพระเกษมสอนชาวบ้านให้เลิกกราบพระพุทธรูป?


Gop wrote:คุณตัดมาแค่นี้ไม่ทราบว่าอ่านหมดหรือเปล่า


คุณ Gop
หากไม่ว่าอะไร ผมขอตอบคำถามคุณโพสนี้เป็นโพสสุดท้ายเหมือนกันนะครับ
เพราะไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากการคุยกับคุณ Gop
ผมขึ้เกียจพิมพ์มาก :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sat Oct 08, 2011 4:10 pm

เช neverdie wrote:ที่คุยกับคุณ sleeples เรื่องพระเกษมมาเนิ่นนาน ....

ก็เพราะเหตุว่าคุณ sleeples เป็นตัวอย่างของพุทธตามทะเบียนบ้านเพราะเข้าใจหลักธรรมของพุทธเพียงเปลือกและพิธีกรรมภายนอก เพราะแก่นหัวใจของพุทธอย่างหลักธรรมที่ควรจับใว้ให้มั่นกลับเหมือนปล่อยปละละเลย แต่เปลือกกระพี้ของพุทธที่ปล่อยปละละเลยได้ กลับเอาไปถือมั่นกอดใว้เสียแน่น


คุณเช เห็นได้ชัดว่าคุณยังไม่เคยขุดคุ้ยกิเลสในใจตัวเองดูเลย
หากนอกจากการหัดนั้งสมาธิแล้ว คุณเชหัดลอกกิเลสตามมันลงไปูทีละชั้นทีละชั้น เสียบ้าง ก็จะเห็นว่าไอ้ที่คุณเชเที่ยวไปเรียกชาวบ้านเขาว่า "พุทธตามทะเบียนบ้าน" แล้วโยนการกราบพระพุทธรูปทิ้งไป แล้วกันไปเกาะการไม่กราบพระพุทธรูปนั้น มันเป็นกิเลสที่ขี่คอคุณอยู่อีกที

ไอ้ที่คุณพูดหน่ะ มันกระพี้ ยังไม่้ได้ลอกลงไปดูไอ้ตัวพ่อที่มันอยู่ด้านในเลย

:)
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sat Oct 08, 2011 4:18 pm

ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Sat Oct 08, 2011 4:31 pm

sleepless wrote:ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D


ขอให้ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ ถ้าการกราบนั้นเป็นการกราบไปที่พระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่ากราบเลย ไม่ได้ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น

แต่ถ้าเจตนานั้น เป็นการกราบไปด้วยน้ำใจระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ พระปริสุทธิคุณ ก็กราบไปเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นฝาบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นศิวลึงค์ ฯลฯ หรือแม้แต่ไม่มีอะไรเลยตรงหน้า ขอแต่เพียงหากมีจิตน้อมระลึกต่ามที่กล่าวมาก็กราบได้ เป็นมงคลกับชีวิตครับ

ส่วนการเลิกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ด ทำไมต้องเลิก ขอเหตุผลด้วยครับ

... ;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby ธนุส แดน นิราลัย » Sat Oct 08, 2011 4:43 pm

เช neverdie wrote:
sleepless wrote:ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D


ขอให้ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ ถ้าการกราบนั้นเป็นการกราบไปที่พระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่ากราบเลย ไม่ได้ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น

แต่ถ้าเจตนานั้น เป็นการกราบไปด้วยน้ำใจระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ พระปริสุทธิคุณ ก็กราบไปเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นฝาบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นศิวลึงค์ ฯลฯ หรือแม้แต่ไม่มีอะไรเลยตรงหน้า ขอแต่เพียงหากมีจิตน้อมระลึกต่ามที่กล่าวมาก็กราบได้ เป็นมงคลกับชีวิตครับ

... ;) ;) ;)

Image
เย็นศิระเพราะพระบริบาล
User avatar
ธนุส แดน นิราลัย
 
Posts: 206
Joined: Sun Aug 14, 2011 4:35 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Gop » Sat Oct 08, 2011 5:06 pm

sleepless wrote:
Gop wrote:คุณตัดมาแค่นี้ไม่ทราบว่าอ่านหมดหรือเปล่า


คุณ Gop
หากไม่ว่าอะไร ผมขอตอบคำถามคุณโพสนี้เป็นโพสสุดท้ายเหมือนกันนะครับ
เพราะไม่คิดว่าจะมีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจากการคุยกับคุณ Gop
ผมขึ้เกียจพิมพ์มาก :D



คุณรู้มั้ยครับ ผมเขียนดีๆ ผมมีประเด็นที่ชัดเจน แต่คุณตอบผมได้หยาบคายมาก
ผมจะได้บอกคุณแบบไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว อุตส่าห์เขียนดีๆมานาน คุณเล่นตัดมา
สั้นๆ แล้วก็ตอบแบบยกตนเหลือเกิน ผมสรุปสั้นๆนะครับ

ผมเขียนถึงความนับถือของนักวิทยาศาสตร์ที่มีต่อไอน์สไตน์นั้น เป็นเพราะคนเหล่า
นั้นศึกษาและเข้าใจ ไม่ใช่เพราะบูชาที่ตัวบุคคลหรือรูปภาพของไอน์สไตน์ ผมรู้สึก
ว่าเป็นเรื่องปัญญาอ่อน ที่มีคนกลัวว่าความรู้ของไอน์สไตน์จะหายไป ถ้าเราเลิกบูชา
เลิกบันทึกรูปภาพต่างๆของไอน์สไตน์เอาไว้

คุณไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องปัญญาอ่อนหรือครับ ที่กลัวคนไม่ไหว้พระพุทธรูป
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby taracho » Sat Oct 08, 2011 7:37 pm

ธนุส แดน นิราลัย wrote:
เช neverdie wrote:
sleepless wrote:ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D


ขอให้ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ ถ้าการกราบนั้นเป็นการกราบไปที่พระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่ากราบเลย ไม่ได้ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น

แต่ถ้าเจตนานั้น เป็นการกราบไปด้วยน้ำใจระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ พระปริสุทธิคุณ ก็กราบไปเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นฝาบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นศิวลึงค์ ฯลฯ หรือแม้แต่ไม่มีอะไรเลยตรงหน้า ขอแต่เพียงหากมีจิตน้อมระลึกต่ามที่กล่าวมาก็กราบได้ เป็นมงคลกับชีวิตครับ

... ;) ;) ;)

Image


พุทธานุสติ สินะครับ
จะยึดมั่นในสติ จะปกป้องด้วยชีวา เพราะเราคือ ทหารพระราชา
ปล.คนเราถ้าลืมรากเหง้าของตัวเองก็ไม่ต่างกับคนที่ตายแล้ว และประเทศไหนที่ลืมรากเหง้าก็คือประเทศที่สาบสูญแล้วเช่นกัน แล้วเราจะปล่อยให้ประเทศของเราเป็นเช่นประเทศที่สาบสูญฤา
User avatar
taracho
 
Posts: 134
Joined: Tue Feb 02, 2010 2:41 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Apichai » Sat Oct 08, 2011 7:46 pm

เมื่อมีคนตาย ก็ควรจะเอาไปทำปุ๋ย
ไม่ต้องไปสวด เก็บอัฐิไปบูชา
ไม่ได้เป็น คน สัตว์ อะไรหรอก
มันก็แค่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ
:lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
User avatar
Apichai
 
Posts: 586
Joined: Wed May 19, 2010 2:59 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Sun Oct 09, 2011 4:08 pm

เช neverdie wrote:
sleepless wrote:ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D


ขอให้ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ ถ้าการกราบนั้นเป็นการกราบไปที่พระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่ากราบเลย ไม่ได้ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น

แต่ถ้าเจตนานั้น เป็นการกราบไปด้วยน้ำใจระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ พระปริสุทธิคุณ ก็กราบไปเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นฝาบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นศิวลึงค์ ฯลฯ หรือแม้แต่ไม่มีอะไรเลยตรงหน้า ขอแต่เพียงหากมีจิตน้อมระลึกต่ามที่กล่าวมาก็กราบได้ เป็นมงคลกับชีวิตครับ

ส่วนการเลิกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ด ทำไมต้องเลิก ขอเหตุผลด้วยครับ

... ;) ;) ;)



ผมถามคำถามให้ตอบง่ายๆ คุณก็ยังไม่ยอมตอบตรงๆ :)
หากคุณยังไม่รู้ว่าการติดเว็บบอร์ดกับการกราบพระพุทธรูป อย่างไหนคุณควรเลิกก่อน ผมก็หมดเรื่องคุยกับคุณแล้วครับ

mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ
:)
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby Gop » Sun Oct 09, 2011 4:36 pm

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:
sleepless wrote:ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D


ขอให้ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ ถ้าการกราบนั้นเป็นการกราบไปที่พระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่ากราบเลย ไม่ได้ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น

แต่ถ้าเจตนานั้น เป็นการกราบไปด้วยน้ำใจระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ พระปริสุทธิคุณ ก็กราบไปเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นฝาบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นศิวลึงค์ ฯลฯ หรือแม้แต่ไม่มีอะไรเลยตรงหน้า ขอแต่เพียงหากมีจิตน้อมระลึกต่ามที่กล่าวมาก็กราบได้ เป็นมงคลกับชีวิตครับ

ส่วนการเลิกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ด ทำไมต้องเลิก ขอเหตุผลด้วยครับhttp://forum.serithai.net/posting.php?mode=quote&f=2&p=837428#

... ;) ;) ;)


ผมถามคำถามให้ตอบง่ายๆ คุณก็ยังไม่ยอมตอบตรงๆ :)
หากคุณยังไม่รู้ว่าการติดเว็บบอร์ดกับการกราบพระพุทธรูป อย่างไหนคุณควรเลิกก่อน ผมก็หมดเรื่องคุยกับคุณแล้วครับ

mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ
:)


การเข้าหรือไม่เข้าเว็บบอร์ดนั้นมันเกี่ยวอะไรกับการกราบหรือไม่กราบพระพุทธรูปครับ :?: :?:
คุณไม่รู้สึกว่าปัญญาอ่อนบ้างหรือที่ตั้งคำถามแบบนี้
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby rakchart thai » Sun Oct 09, 2011 9:42 pm

อย่าพึ่งไปไหนเลยครับคุณ sleepless อยู่สนทนากันก่อน .. ใจเย็นๆนะครับ :) :)
User avatar
rakchart thai
 
Posts: 454
Joined: Thu May 20, 2010 11:58 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Sun Oct 09, 2011 9:59 pm

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:
sleepless wrote:ไปหล่ะ

แต่ก่อนไปฝากคำถามง่ายๆ ถึงคุณเชอีกคำถามว่า

คุณคิดว่าการบังคับตัวเองให้เลิกติดเว็บบอร์ด กับการเลิกกราบไหว้พระพุทธรูป อันไหนมันมันเป็นสิ่งที่ควรทำก่นหลังกว่ากันในฐานะชาวพุทธ?

:D


ขอให้ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ ถ้าการกราบนั้นเป็นการกราบไปที่พระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ เพราะเชื่อว่าศักดิ์สิทธิ์ ก็อย่ากราบเลย ไม่ได้ทำให้อะไรในชีวิตดีขึ้น

แต่ถ้าเจตนานั้น เป็นการกราบไปด้วยน้ำใจระลึกถึงพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ระลึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระกรุณาธิคุณ พระปริสุทธิคุณ ก็กราบไปเถอะครับ ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธรูปที่มีเศียร มีกร มีพระพักต์ ฯลฯ ทำจากอิฐปูนไม้ ฯลฯ หรือไม่ว่าจะเป็นฝาบ้าน หรือไม่ว่าจะเป็นศิวลึงค์ ฯลฯ หรือแม้แต่ไม่มีอะไรเลยตรงหน้า ขอแต่เพียงหากมีจิตน้อมระลึกต่ามที่กล่าวมาก็กราบได้ เป็นมงคลกับชีวิตครับ

ส่วนการเลิกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ด ทำไมต้องเลิก ขอเหตุผลด้วยครับ

... ;) ;) ;)



ผมถามคำถามให้ตอบง่ายๆ คุณก็ยังไม่ยอมตอบตรงๆ :)
หากคุณยังไม่รู้ว่าการติดเว็บบอร์ดกับการกราบพระพุทธรูป อย่างไหนคุณควรเลิกก่อน ผมก็หมดเรื่องคุยกับคุณแล้วครับ

mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ
:)


ผมแยกตอบเป็นสองประเด็นนะครับ ประเด็นแรกเกี่ยวกับคำถามที่เป็นอวิชาของคุณเพื่ออยากจะต้อนให้ผมจนตรอกเสียเต็มประดานั้น เพราะอยากจะเอาชนะคะคานนั้น ผมก็ได้ตอบไปแล้วด้วยพุทธานุสติ เพียงแต่มันไม่ตรงกับอวิชาในจริตของคุณ ผลก็คือทำให้คุณเฝ้าเพียรถามซ้ำไปซ้ำมา สุดท้ายก็ออกแนวประชดประชันว่าจะไม่คุยกันต่อ

ส่วนประเด็นที่สอง คุณเอาการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ดหรือที่คุณเรียกว่า"ติดเวบบอร์ด" มาใว้ในกลุ่มเดียวกันกับการกราบพระ ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจิตใจคุณยังมืดบอดอยู่กับโลกียะธรรม หาใช่จิตใจที่จะมุ่งมั่นสู่โลกุตระธรรมไม่ ความหมายตามอักษรของคุณให้ความรู้สึกว่าการสนทนาผ่านทางเวบบอร์ดคล้ายกับการติดเกมส์ออนไลน์ ประมาณนั้น

การสนทนาธรรมตามกาล เป็นหนึ่งในมงคลชีวิตรวมอยู่ในมงคลชีวิต 38 ประการ มีการบูชาคนที่ควรบูชา การไม่คบคนพาล การคบบันฑิต การตั้งตนชอบ เป็นต้น

ปล. ในมงคล 38 ประการ ไม่มีข้อไหนที่พระพุทธองค์บัญญัติว่า ควรบูชาพระพุทธรูปที่ควรบูชา หรือ ควรบูชารูปสลักหรือสิ่งของที่ควรบูชา แล้วจะเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตนะครับ มีแต่บัญัติใว้ในข้อที่สามว่า บูชาคนที่ควรบูชา ครับ

;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Sun Oct 09, 2011 10:25 pm

มงคล คือเหตุแห่งความสุข ความก้าวหน้าในการดำเนินชีวิต ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้พึงปฏิบัติ นำมาจากบทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญหรือมี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ๓๘ ประการ

๑. การไม่คบคนพาล ๒. การคบบัญฑิต ๓. การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๔. การอยู่ในถิ่นอันสมควร ๕. เคยทำบุญมาก่อน ๖. การตั้งตนชอบ ๗. ความเป็นพหูสูต ๘. การรอบรู้ในศิลปะ ๙. มีวินัยที่ดี ๑๐.กล่าววาจาอันเป็นสุภาษิต ๑๑.การบำรุงบิดามารดา ๑๒.การสงเคราะห์บุตร ๑๓.การสงเคราะห์ภรรยา ๑๔.ทำงานไม่ให้คั่งค้าง ๑๕.การให้ทาน ๑๖.การประพฤติธรรม ๑๗.การสงเคราะห์ญาติ ๑๘.ทำงานที่ไม่มีโทษ ๑๙.ละเว้นจากบาป ๒๐.สำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๒๑.ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๒๒.มีความเคารพ ๒๓.มีความถ่อมตน ๒๔.มีความสันโดษ ๒๕.มีความกตัญญู ๒๖.การฟังธรรมตามกาล ๒๗.มีความอดทน ๒๘.เป็นผู้ว่าง่าย ๒๙.การได้เห็นสมณะ ๓๐.การสนทนาธรรมตามกาล ๓๑.การบำเพ็ญตบะ
๓๒.การประพฤติพรหมจรรย์ ๓๓.การเห็นอริยสัจ ๓๔.การทำให้แจ้งซึ่งพระนิพพาน ๓๕.มีจิตไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ๓๖.มีจิตไม่เศร้าโศก ๓๗.มีจิตปราศจากกิเลส ๓๘.มีจิตเกษม

:D :D :D
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Sun Oct 09, 2011 10:41 pm

sleepless wrote:
mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ
:)


ขอรบกวนคุณ sleepless ช่วยแสดงเหตุผลที่คุณเสนอให้ "mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ" ด้วยครับ

มีเหตุผลอย่างไร และใช้สิทธิ์ไดในการเสนอนี้ เพราะตามความเข้าใจของผม กระทู้นี้ตั้งโดย "คนบาป(คุณแคน ไทเมือง)" อีกทั้งการสนทนาก็ยังดำเนินไปโดยเรียบร้อย มิได้มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายในกระทู้แต่อย่างได

ผมจึงอยากจะขอทราบเหตุผลของคุณ sleepless ที่คุณเสนอให้ "mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ" ด้วยครับ

;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Mon Oct 10, 2011 9:04 am

rakchart thai wrote:อย่าพึ่งไปไหนเลยครับคุณ sleepless อยู่สนทนากันก่อน .. ใจเย็นๆนะครับ :) :)



ไม่ได้ไปไหนครับ ผมก็เข้ามาอ่านอยู่เสมอๆ แต่ไม่ได้มีเรื่องที่จะคุยก็ไม่ได้โพส :D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Mon Oct 10, 2011 9:10 am

เช neverdie wrote:
sleepless wrote:
mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ
:)


ขอรบกวนคุณ sleepless ช่วยแสดงเหตุผลที่คุณเสนอให้ "mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ" ด้วยครับ

มีเหตุผลอย่างไร และใช้สิทธิ์ไดในการเสนอนี้ เพราะตามความเข้าใจของผม กระทู้นี้ตั้งโดย "คนบาป(คุณแคน ไทเมือง)" อีกทั้งการสนทนาก็ยังดำเนินไปโดยเรียบร้อย มิได้มีการใช้ถ้อยคำหยาบคายในกระทู้แต่อย่างได

ผมจึงอยากจะขอทราบเหตุผลของคุณ sleepless ที่คุณเสนอให้ "mod จะล็อกหรือลบกระทู้ก็ได้เลยนะครับ" ด้วยครับ

;) ;) ;)



คุณเชรู้มัี๊ย ผมเดาคุณเชออกหมดเลยว่าจะโพสอะไรต่อ เหมือนโพสนี้ก็เหมือนกัน ผมกะเอาไว้แล้วว่าถ้าผมโพสบอกให้ mod ล็อกกระทู้ได้ คุณเชต้องออกมาพูดแบบนี้ :D

ก็ก่อนหน้านี้ mod เขาเข้ามาเตือน ผมก็บอกว่าอย่าเพิ่งล็อก รอให้ผมหมดเรื่องคุยก่อน

ตอนนี้ผมหมดเรื่องคุยแล้ว ผมก็ต้องบอก mod เขาตามมารยาทสิครับ

ส่วน mod เขาจะล็อกหรือไม่ เป็นเรื่องของเขาครับ ผมไม่ได้ไปสั่งให้เขาล็อกนี่

:D
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby sleepless » Mon Oct 10, 2011 9:12 am

เช neverdie wrote:
ส่วนประเด็นที่สอง คุณเอาการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ดหรือที่คุณเรียกว่า"ติดเวบบอร์ด" มาใว้ในกลุ่มเดียวกันกับการกราบพระ ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจิตใจคุณยังมืดบอดอยู่กับโลกียะธรรม หาใช่จิตใจที่จะมุ่งมั่นสู่โลกุตระธรรมไม่ ความหมายตามอักษรของคุณให้ความรู้สึกว่าการสนทนาผ่านทางเวบบอร์ดคล้ายกับการติดเกมส์ออนไลน์ ประมาณนั้น


คุณเชอธิบายหน่อยสิครับว่าการติดเว็บบอร์ดมันต่างยังไงกับการติดเกมส์ออนไลน์ :)
User avatar
sleepless
 
Posts: 605
Joined: Mon Oct 13, 2008 7:22 am

Re: ส.ศิวลักษณ์ ป้องพระเกษม

Postby เช neverdie » Mon Oct 10, 2011 9:37 am

sleepless wrote:
เช neverdie wrote:
ส่วนประเด็นที่สอง คุณเอาการสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นผ่านทางเวบบอร์ดหรือที่คุณเรียกว่า"ติดเวบบอร์ด" มาใว้ในกลุ่มเดียวกันกับการกราบพระ ก็เป็นเครื่องแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจิตใจคุณยังมืดบอดอยู่กับโลกียะธรรม หาใช่จิตใจที่จะมุ่งมั่นสู่โลกุตระธรรมไม่ ความหมายตามอักษรของคุณให้ความรู้สึกว่าการสนทนาผ่านทางเวบบอร์ดคล้ายกับการติดเกมส์ออนไลน์ ประมาณนั้น


คุณเชอธิบายหน่อยสิครับว่าการติดเว็บบอร์ดมันต่างยังไงกับการติดเกมส์ออนไลน์ :)


ถามจริงๆ คุณ sleepless แยกแยะไม่ออกจริงๆหรือครับว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้-ทัศนคติผ่านทางเวบบอร์ด ต่างจากการติดเกมส์ออนไลน์อย่างไร แกล้งอำหรือเปล่า ไม่รู้จริงๆหรือครับ อายุเท่าไหร่แล้วครับเนี่ย ผมให้โอกาศกลับไปพิจารณาใหม่จนถึงค่ำวันนี้ครับว่า "การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้-ทัศนคติผ่านทางเวบบอร์ด ต่างจากการติดเกมส์ออนไลน์อย่างไร"

แล้วถ้ายังมีอวิชชามืดบอดในเรื่องนี้จนถึงค่ำนี้ เดี๋ยวค่ำๆผมจะมาวิสัชนาให้ดูในกระทู้นี้ครับว่า "การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้-ทัศนคติผ่านทางเวบบอร์ด ต่างจากการติดเกมส์ออนไลน์อย่างไร"

;) ;) ;)
ความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ที่พี่ๆเสื้อแดงใบ้แดรก เถียงไม่ออกซักคน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องกองทุนน้ำมัน
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องภาษี
คลิ้กเบาๆตรงนี้ --->> เรื่องตลาดทุน
User avatar
เช neverdie
 
Posts: 2632
Joined: Wed Jul 13, 2011 9:39 am

PreviousNext

Return to สภากาแฟ