จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby ดราม่า » Sun Oct 16, 2011 11:43 am

55555 wrote:

" I ' ll be back................


with the new id.


:lol:

:oops:
"หากท่านโกหกเรื่องใหญ่มากพอ, โกหกบ่อยครั้งเพียงพอ, เรื่องนั้นจะถูกเชื่อ"
อดอล์ฟ ฮิตเลอร์


สนับสนุนกฎหมายเก็บภาษีที่ดินคนรวย สนันสนุนกฎหมายเก็บภาษีมรดก

"กฎหมายภาษีที่ดินเป็นหัวใจของการแก้ปัญหาช่องว่างรายได้"
User avatar
ดราม่า
 
Posts: 1670
Joined: Mon Jan 10, 2011 2:37 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby orogaros » Sun Oct 16, 2011 12:00 pm

ง่า...มีขุดเพื่อตอกย้ำ ท่านดราม่า ปล่อยไปเถอะครับ ยังไงซะหลายคนก็ได้ความรู้ประกอบไปด้วย
User avatar
orogaros
 
Posts: 454
Joined: Sat Aug 14, 2010 1:04 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman_agian » Sun Oct 16, 2011 9:16 pm

ยังดีที่พอมีคนที่มีสติอยู่บ้าง เลยถกสนุกหน่อย แต่ขออภัย เผอิญต้องไปช่วยเรื่องน้ำท่วมทุกวัน เลยไม่มีแรงมาต่อ
สัญญาว่าไม่วันจันทร์ก็อังคารถ้าเคลียร์งานเสร็จจะมาต่อครับ ใครจะมาทวงอะไรก็มาทวงไว้นะ :lol: :lol: :lol:
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby –stormtrooper– » Mon Oct 17, 2011 4:23 am

อุตส่าห์ทนอ่านมาตั้ง 17 หน้า เสียเวลาไปเยอะ ไม่โทษใครหรอก

เท่าที่อ่านมา no pants ไม่ได้เป็นเสื้อแดงพื้น ๆ นะครับ แถมยังด่าคนที่ว่าทักษิณเลวว่าเป็นควายอีก คงจะมี ego อะไรพอสมควรอยู่ และคงจะหยอดอารมณ์อะไรซักอย่าง เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน แต่พวกนี้ดันมาด่าประชาชน เลยด่าให้ซะ

สรุปนะครับ การถกเถียงเรื่องกฏหมายเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง (แต่เล่นไปซะ 17 หน้า) no pants เค้ามี agenda ที่ใหญ่กว่านั้นครับ ที่เค้าบอกทักษิณจะติดคุก หรือผิดแค่ไหนก็เรื่องของทักษิณโว้ย อันนี้น่าจะจริง ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเลิกถกเรื่องทักษิณได้แล้ว ส่วน agenda ของ no pants คืออะไร เค้าก็เปรย ๆ ออกมาบ้างแล้วนะ อ่านดูก็พอรู้ว่าเป็นเรื่อง Mein Kampf อุดมการณ์ของฮิตเล่อร์นั่นเอง

หลาย ๆ เรื่องฮิตเล่อร์ก็ตัดสินใจถูกนะ อย่างเช่นรถ volkswagen รุ่น beetle นั่นไง เป็นรถราคาประหยัด สินค้า mass product เพื่อคนเยอรมันทั่ว ๆ ไปพอจะซื้อหามาใช้ได้ แต่ไอ้เรื่องฆ่าตัดตอนนี่ เป็นตราบาปเลยทีเดียว
User avatar
–stormtrooper–
 
Posts: 61
Joined: Sat Dec 25, 2010 3:29 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby yoshikiryuichiro » Mon Oct 17, 2011 4:34 am

–stormtrooper– wrote:อุตส่าห์ทนอ่านมาตั้ง 17 หน้า เสียเวลาไปเยอะ ไม่โทษใครหรอก

เท่าที่อ่านมา no pants ไม่ได้เป็นเสื้อแดงพื้น ๆ นะครับ แถมยังด่าคนที่ว่าทักษิณเลวว่าเป็นควายอีก คงจะมี ego อะไรพอสมควรอยู่ และคงจะหยอดอารมณ์อะไรซักอย่าง เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน แต่พวกนี้ดันมาด่าประชาชน เลยด่าให้ซะ

สรุปนะครับ การถกเถียงเรื่องกฏหมายเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง (แต่เล่นไปซะ 17 หน้า) no pants เค้ามี agenda ที่ใหญ่กว่านั้นครับ ที่เค้าบอกทักษิณจะติดคุก หรือผิดแค่ไหนก็เรื่องของทักษิณโว้ย อันนี้น่าจะจริง ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเลิกถกเรื่องทักษิณได้แล้ว ส่วน agenda ของ no pants คืออะไร เค้าก็เปรย ๆ ออกมาบ้างแล้วนะ อ่านดูก็พอรู้ว่าเป็นเรื่อง Mein Kampf อุดมการณ์ของฮิตเล่อร์นั่นเอง

หลาย ๆ เรื่องฮิตเล่อร์ก็ตัดสินใจถูกนะ อย่างเช่นรถ volkswagen รุ่น beetle นั่นไง เป็นรถราคาประหยัด สินค้า mass product เพื่อคนเยอรมันทั่ว ๆ ไปพอจะซื้อหามาใช้ได้ แต่ไอ้เรื่องฆ่าตัดตอนนี่ เป็นตราบาปเลยทีเดียว


อย่าไปสนใจอะไรกับสวะชั้นต่ำที่ชอบกลับกลอกเลย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรก็ตาม เขาจะบิดให้เป็นผิดให้ได้

ในทางกลับกัน หากทักษิณทำอะไรผิด เขาก็จะหาช่องบิดให้ความผิดกลายเป็นถูก

สวะแบบนี้พบได้ทั่วไป เพราะไม่มีคำว่าความถูกต้องในสมอง มีแต่คำว่ากูต้องถูก มึงต้องผิดเท่านั้น

และเพราะมีคนแบบนี้นั่นแหละ ความขัดแย้งในประเทศนี้จึงไม่มีทางมอดดับได้ เพราะความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มนี้
大一大万大吉

一人が皆のため 皆が一人のために尽くせば 天下は幸せになれる...
これが私の正義!!

เมื่อคนๆหนึ่งทำทุกอย่างเพื่อทุกๆคน และทุกๆคนจะทำทุกอย่างเพื่อคนๆนั้นเมื่อใด เมื่อนั้นแผ่นดินจะร่มเย็นเป็นสุข
นี่คือคุณธรรมของชั้น!!
User avatar
yoshikiryuichiro
 
Posts: 574
Joined: Sat May 15, 2010 10:34 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman_agian » Tue Oct 18, 2011 12:22 am

–stormtrooper– wrote:อุตส่าห์ทนอ่านมาตั้ง 17 หน้า เสียเวลาไปเยอะ ไม่โทษใครหรอก

เท่าที่อ่านมา no pants ไม่ได้เป็นเสื้อแดงพื้น ๆ นะครับ แถมยังด่าคนที่ว่าทักษิณเลวว่าเป็นควายอีก คงจะมี ego อะไรพอสมควรอยู่ และคงจะหยอดอารมณ์อะไรซักอย่าง เพราะธรรมศาสตร์สอนให้รักประชาชน แต่พวกนี้ดันมาด่าประชาชน เลยด่าให้ซะ

สรุปนะครับ การถกเถียงเรื่องกฏหมายเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้นเอง (แต่เล่นไปซะ 17 หน้า) no pants เค้ามี agenda ที่ใหญ่กว่านั้นครับ ที่เค้าบอกทักษิณจะติดคุก หรือผิดแค่ไหนก็เรื่องของทักษิณโว้ย อันนี้น่าจะจริง ถ้าอย่างนั้นก็น่าจะเลิกถกเรื่องทักษิณได้แล้ว ส่วน agenda ของ no pants คืออะไร เค้าก็เปรย ๆ ออกมาบ้างแล้วนะ อ่านดูก็พอรู้ว่าเป็นเรื่อง Mein Kampf อุดมการณ์ของฮิตเล่อร์นั่นเอง

หลาย ๆ เรื่องฮิตเล่อร์ก็ตัดสินใจถูกนะ อย่างเช่นรถ volkswagen รุ่น beetle นั่นไง เป็นรถราคาประหยัด สินค้า mass product เพื่อคนเยอรมันทั่ว ๆ ไปพอจะซื้อหามาใช้ได้ แต่ไอ้เรื่องฆ่าตัดตอนนี่ เป็นตราบาปเลยทีเดียว


นับเป็น คคห. ที่แหวกแนวมากครับ แต่เผอิญผมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนั้นของฮิตเล่อร์เลย เลยไม่ทราบว่าอุดมการณ์ของฮิตเล่อร์ที่คุณพูดถึงคืออะไรนะครับ
แต่จากย่อหน้้าที่ 2 ผมว่าคุณวิเคราะห์ผมผิดไปนิดนึง คือผมไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับธรรมศาสตร์ และไม่ได้มี ego อะไรหรอกครับ ถ้าชอบในการวิเคราะห์คน
ลองไล่ไปอ่าน คคห. ผมในกระทู้อื่น จะพบว่าผม(เท่าที่จำได้) ไม่เคยด่าใครก่อนเลย มีแค่กระทู้นี้ที่ผมด่าก็เพราะเล่นกับบุ้คมาร์คเป็นหลักเท่านั้นครับ
(มีดราม่ากับ 555 แจมบ้าง แต่ตอนนี้เบื่อสองคนนี้แล้วเลยแอด foe ไปแล้ว :lol: :lol: :lol: )

ย้ำอีกทีเผื่อคุณอ่านเยอะเลยจับไม่ถูก ผมไม่เคยคิดโกหกอยู่แล้วครับ จุดยืนของผมมีจุดเดียว คือ ทำให้คนที่หลงตกเป็นเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ
ของนักเล่นการเมืองทั้งหลายได้รู้สึกตัว และมองการเมืองด้วยความเป็นจริงครับ ทีนี้คุณอาจจะมองว่าทำไมผมไม่เคยพูดเรื่องความเลวของทักษิณ
ก็เพราะผมไม่ได้ต้องการแก้ตัวให้ทักษิณ ส่วนที่ทักษิณเลวที่คุณทราบแล้วผมก็ไม่รู้จะให้ข้อมูลอะไร แต่ส่วนอื่นที่ไม่เป็นความจริง แต่ถูกขั้วการเมือง
ฝั่งตรงข้ามประโคมข่าวให้คนหลายๆ คนตกเป็นเครื่องมือในการไล่ทักษิณ ตรงนี้ต่างหากที่ผมอยากให้คนเหล่านี้ได้ตระหนักว่า ไอ้พวกที่มันกล้าแม้กระทั่ง
แต่งเรื่องอะไรก็ได้เพื่อไล่ทักษิณ อย่าไปหลงเชื่อเลยว่ามันเป็นคนดี ให้มองอย่างหวาดระแวง อย่าหลงเป็นเครื่องมือ
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman_agian » Tue Oct 18, 2011 12:29 am

yoshikiryuichiro wrote:
อย่าไปสนใจอะไรกับ***ชั้นต่ำที่ชอบกลับกลอกเลย ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรก็ตาม เขาจะบิดให้เป็นผิดให้ได้

ในทางกลับกัน หากทักษิณทำอะไรผิด เขาก็จะหาช่องบิดให้ความผิดกลายเป็นถูก

***แบบนี้พบได้ทั่วไป เพราะไม่มีคำว่าความถูกต้องในสมอง มีแต่คำว่ากูต้องถูก คุณต้องผิดเท่านั้น

และเพราะมีคนแบบนี้นั่นแหละ ความขัดแย้งในประเทศนี้จึงไม่มีทางมอดดับได้ เพราะความเห็นแก่ตัวของคนกลุ่มนี้


นี่คือตัวอย่างที่ดีของคนที่ตกเป็นเครื่องมือของการเมืองอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะไม่รู้จักแยกแยะอะไรถูกผิดแล้ว

ไม่ยอมรับความเห็นต่าง ไม่ยอมรับในหลักเหตุและผล ท่องเป็นอย่างเดียวว่าใครที่คิดต่างจากตัวเองคือเสื้อแดง คือข้ารับใช้ทักษิณ

สังเกตุได้ง่ายๆ คือไม่เคยที่จะเอาหลักฐานมาสู้กัน ใช้แต่โวหารอย่างเดียว เพราะตอนนี้สมองคิดอะไรนอกเหนือจากขอบเขตความรับรู้ที่ถูกบรรจุเอาไว้ไม่ได้แล้ว

นับเป็นคนที่ทั้งน่าสงสาร น่าสมเพช และน่าตลกในเวลาเดียวกัน :lol: :lol: :lol:

อีกหน่อยก็คงต้องปล่อยเป็น foe ไป เพราะไม่มีสาระอะไรเลย :lol: :lol: :lol:
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman_agian » Tue Oct 18, 2011 1:55 am

คราวนี้กลับมาตามคำสัญญา ก่อนอื่นต้องขอท้าวความให้ใครที่เข้ามาติดตามทีหลังได้ทราบว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรนะครับ

โดยประเด็นล่าสุดคือ ข้อกล่าวหากรณีที่ดินรัชดา เรื่อง "ทักษิณแก้กฏหมายเพื่อให้สร้างตึกได้สูงขึ้นหลังจากพจมานประมูลได้ ซึ่งส่งผลให้ที่ดินราคาสูงขึ้น"
(ถ้าใครติดตามใหม่คิดว่าผมมาแก้ต่างให้ทักษิณ กรุณากลับไปอ่าน คคห. เก่าๆ ผมดูก่อน ขี้เกียจอธิบายหลายรอบครับ)

ซึ่งจะวิเคราะห์ว่าข้อกล่าวหานี้เป็นจริงหรือไม่ก็ดูหลักฐานที่กฎหมายก่อนประมูล กับหลังประมูล ซึ่งมีหลักฐานประกอบดังนี้ครับ

ก่อนประมูล :
1.1 กฎกระทรวงฉบับที่ 414 พ.ศ. 2542 ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร (ปรับปรุงครั้งที่ 1) http://www.bma-cpd.go.th/me1.html
1.2 กฎกระทรวงฉบับที่ 50 พ.ศ. 2540 ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522
http://www.archthai.com/home/document/buildinglaw/decree/50.pdf

หลังประมูล :
2.1 กฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๔๙ (ปรับปรุงครั้งที่ 2) http://www.bma-cpd.go.th/files/001/DOC_01.pdf

หลักฐานประกอบอื่นๆ
3.1 นิยามศัพท์ต่างๆ เช่น อาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ http://www.archthai.com/home/document/buildinglaw/building/43.pdf
3.2 ความรู้เรื่อง FAR http://www.oknation.net/blog/architect-bma-club/2010/12/22/entry-1

คราวนี้มาดูข้อเท็จจริงที่วิเคราะห์จากกฎหมาย โดยขอแยกเป็นก่อนประมูล และหลังประมูลเช่นเดียวกัน

ก่อนประมูล :
ก.1 ที่ดินรัชดาจัดอยู่ในกลุ่ม 2.30 (จากแผนที่ประกอบใน 1.1) เป็นกลุ่มสีส้ม ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง
ก.2 ตัวที่ดินห้ามสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ (จาก 1.1 ส่วนของกฎกระทรวง 414 ที่เป็น pdf หน้า 8 ข้อ 12)
ก.3 อาคารที่สร้างได้ต้องมีอัตราส่วนพ.ท. อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน 10 ต่อ 1 (จาก 1.2 หน้า 59 ข้อ 7)

หลังประมูล :
ข.1 ที่ดินรัชดาจัดอยู่ในกลุ่ม ย.6 (จากแผนที่ประกอบใน 2.1) เป็นกลุ่มสีส้ม ที่อยู่อาศัยหนาแน่นปานกลาง
ข.2 ตัวที่ดินห้ามสร้างอาคารขนาดใหญ่พิเศษ (จาก 2.1 หน้า 27 ข้อ 17 เรื่องข้อห้าม ข้อที่ 9,10,11)
ข.3 อาคารที่สร้างได้ต้องมีอัตราส่วนพ.ท. อาคารรวมต่อพื้นที่ดินไม่เกิน 4.5 ต่อ 1 (จาก 2.1 หน้า 59 เรื่องการใช้ประโยชน์ ข้อที่ 1)

ซึ่งตรงนี้ก็มีสมาชิกหลายท่านได้สรุปให้ดูบ้างแล้ว คราวนี้ก็มาวิเคราะห์ว่าหลังประมูลทการแก้กฎหมายทำให้ที่ดินราคาสูงขึ้นจริงหรือไม่
- ถ้าเปรียบเทียบ ก.1 กับ ข.1 จะเห็นว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน ดังนั้นประเด็นเปลี่ยนสีจึงไม่เป็นความจริง ตัดทิ้งได้
- ส่วน ก.2 กับ ข.2 ดังที่คุณ Gop วิเคราะห์ไว้ จะพบว่ามีการตัดคำว่า อาคารสูง ทิ้งไป (นิยามอาคารสูง ดูได้จาก 3.1 หน้า 2 มาตรา 5)
หมายความว่าก่อนประมูลสร้างอาคารสูงไม่ได้ แต่หลังประมูลสร้างอาคารสูงได้ ซึ่งนี่คงเป็นที่มาของคำกล่าวหา และด้วยข้อนี้ข้อเดียว
ย่อมดูเหมือนว่าหลังประมูล กฎหมายจะเอื้อประโยชน์ให้ที่ดินรัชดา
- แต่จาก ก.3 เทียบกับ ข.3 ตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่ยอมพูดถึงกัน และถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่ว่าจะห้ามสร้างหรือไม่ห้ามสร้าง
อาคารประเภทใดก็ตาม แต่ข้อจำกัดตรงนี้หมายถึงการกำหนดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้มากที่สุด (ต้องไม่ลืมว่ามูลค่าที่ดิน ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับว่าสร้างตึกได้สูงหรือไม่ แต่ขึ้นกับ พ.ท. ใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด) ซึ่งจะเห็นได้ว่า กฎหมายใหม่นั้นอนุญาติให้สร้าง
อาคารซึ่งมีพื้นที่รวมน้อยลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ที่ดินแต่อย่างใด

ดังนั้น จากข้อสรุป ณ ปัจจุบัน ข้อกล่าวหาข้างต้น จึงน่าจะเป็นการดิสเครดิตเฉยๆ ครับ

ปล. นี่ยังไม่นับประเด็นที่บอกว่า ผังเมือง กทม. ปี 49 ทักษิณออกนะ เพราะผังเมือง กทม. มีแม่-งาน คือ กทม. ตามลิงค์นี้
http://www.bangkokplan.org/website/index.php?option=com_wrapper&view=wrapper&Itemid=54&lang=th
ซึ่งเป็นยุคของผู้ว่าจาก ปชป. ต่างหาก!!!
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 9:00 am

nopantaman_agian wrote:. . .
- แต่จาก ก.3 เทียบกับ ข.3 ตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่ยอมพูดถึงกัน และถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่ว่าจะห้ามสร้างหรือไม่ห้ามสร้าง
อาคารประเภทใดก็ตาม แต่ข้อจำกัดตรงนี้หมายถึงการกำหนดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้มากที่สุด (ต้องไม่ลืมว่ามูลค่าที่ดิน ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับว่าสร้างตึกได้สูงหรือไม่ แต่ขึ้นกับ พ.ท. ใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด
) ซึ่งจะเห็นได้ว่า กฎหมายใหม่นั้นอนุญาติให้สร้าง
อาคารซึ่งมีพื้นที่รวมน้อยลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ที่ดินแต่อย่างใด
. . .

มีสองประเด็นที่ผมสงสัยครับ
๑ หลักฐานก่อนประมูลที่คุณให้มานั้น เป็นระเบียบสำหรับอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งตามกฎกระทรวงปี ๒๕๔๒ นั้นห้ามสร้าง
ผมอยากรู้ว่าตอนปี ๔๒ นั้น อนุญาต ให้สร้างอะไรได้บ้าง พอจะมีข้อมูลมั้ยครับ :?:
๒ ผมประมาณคร่าวๆเปรียบเทียบของเก่ากับของใหม่ ของเก่านั้น ยังไงก็สร้างตึกสูงได้ไม่เกิน ๙ ชั้นแน่ๆ เพราะกฏหมายจำกัดความสูงไว้ชัดเจน คุณ
แน่ใจได้อย่างไรว่า พื้นที่ใช้สอยเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดราคาที่ดิน :?: :?:
อย่าลืมว่า ถ้าสร้างตึกสูงได้ รูปแบบของอาคารก็จะเปลี่ยนไปอย่างมาก
คุณสามารถออกแบบอาคารได้ง่ายขึ้น ถึงแม้พื้นที่จะจำกัดลงก็ตาม (ผมลองคิดคร่าวๆแล้ว เหลือประมาณ ๘๐ เปอร์เซนต์ ของกฏหมายเดิม ไม่ใช่ครึ่ง
อย่างที่คุณบอก โดยคิดพื้นที่ของอาคารสูงแปดชั้น ชั้นละสามเมตร และพื้นที่สร้างอาคารต้องมีที่ว่างร้อยละ ๓๐ โดยสมมุติว่าระเบียบที่อ้างมานั้นใช้ได้)
User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby จีรนุช » Tue Oct 18, 2011 3:56 pm

อ่อ ช่วยเรียกผู้เชี่ยวชาญมาช่วยตอบ
User avatar
จีรนุช
 
Posts: 5689
Joined: Sun Nov 30, 2008 7:34 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby nopantaman_agian » Tue Oct 18, 2011 4:58 pm

Gop wrote:
nopantaman_agian wrote:. . .
- แต่จาก ก.3 เทียบกับ ข.3 ตรงนี้เป็นประเด็นที่ไม่ยอมพูดถึงกัน และถือเป็นประเด็นสำคัญ เพราะไม่ว่าจะห้ามสร้างหรือไม่ห้ามสร้าง
อาคารประเภทใดก็ตาม แต่ข้อจำกัดตรงนี้หมายถึงการกำหนดพื้นที่อาคารที่สามารถสร้างได้มากที่สุด (ต้องไม่ลืมว่ามูลค่าที่ดิน ไม่ได้
ขึ้นอยู่กับว่าสร้างตึกได้สูงหรือไม่ แต่ขึ้นกับ พ.ท. ใช้ประโยชน์มากน้อยเพียงใด
) ซึ่งจะเห็นได้ว่า กฎหมายใหม่นั้นอนุญาติให้สร้าง
อาคารซึ่งมีพื้นที่รวมน้อยลงครึ่งหนึ่ง ซึ่งไม่น่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ที่ดินแต่อย่างใด
. . .

มีสองประเด็นที่ผมสงสัยครับ
๑ หลักฐานก่อนประมูลที่คุณให้มานั้น เป็นระเบียบสำหรับอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษ ซึ่งตามกฎกระทรวงปี ๒๕๔๒ นั้นห้ามสร้าง
ผมอยากรู้ว่าตอนปี ๔๒ นั้น อนุญาต ให้สร้างอะไรได้บ้าง พอจะมีข้อมูลมั้ยครับ :?:
๒ ผมประมาณคร่าวๆเปรียบเทียบของเก่ากับของใหม่ ของเก่านั้น ยังไงก็สร้างตึกสูงได้ไม่เกิน ๙ ชั้นแน่ๆ เพราะกฏหมายจำกัดความสูงไว้ชัดเจน คุณ
แน่ใจได้อย่างไรว่า พื้นที่ใช้สอยเท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดราคาที่ดิน :?: :?:
อย่าลืมว่า ถ้าสร้างตึกสูงได้ รูปแบบของอาคารก็จะเปลี่ยนไปอย่างมาก
คุณสามารถออกแบบอาคารได้ง่ายขึ้น ถึงแม้พื้นที่จะจำกัดลงก็ตาม (ผมลองคิดคร่าวๆแล้ว เหลือประมาณ ๘๐ เปอร์เซนต์ ของกฏหมายเดิม ไม่ใช่ครึ่ง
อย่างที่คุณบอก โดยคิดพื้นที่ของอาคารสูงแปดชั้น ชั้นละสามเมตร และพื้นที่สร้างอาคารต้องมีที่ว่างร้อยละ ๓๐ โดยสมมุติว่าระเบียบที่อ้างมานั้นใช้ได้)


1. เท่าที่อ่านและตีความตามความเข้าใจของผมเองนะครับ ที่ดินสีส้มคือให้สร้างที่อยู่อาศัยครับ แต่จริงๆ แล้วทั้งกฎทั้ง 2 ฉบับ(42,49) จะมีช่องเปิดไว้ทั้งคู่คือ
ใช้เพื่อการอื่นได้ 10% อย่างที่ดราม่าเคยเอามาตีขลุมนั่นแหละครับ http://www.reic.or.th/home_eng/news/news_detail.asp?nID=15862&p=40&s=15&t=13
เพียงแต่ประเด็นนี้ผมยังไม่เล่น เพราะมันจะแค่สรุปได้ว่ากฎหมายไม่ได้เอื้อมากขึ้น ซึ่งคนบางจำพวกชอบจินตนาการว่า ไม่ได้เอื้อก็คือโกง เหมือนหลายล็อคอินในกระทู้นี้
ดังนั้นผมเลยชี้ประเด็นสำคัญโดยสมมุติว่า 10% นั้นเต็มไปนานแล้ว แล้วมาดูประเด็น FAR ที่เห็นชัดเจนกว่าแทน

2. ที่ผมบอกว่า พ.ท. ใช้สอยเป็นตัวกำหนดราคา เพราะถ้าคุณจะสร้างตึกเพื่อขาย เขาคิดราคาขายตาม ตร.ม. ครับ ส่วนการออกแบบอาคาร เป็นต้นทุนที่ฟิกเอาไว้
ไม่ว่าออกแบบง่ายหรือยาก ก็ไม่ทำให้กำไรสูงขึ้นเท่าไรครับ (ถ้ายังไงช่วยอธิบายว่าเหลือประมาณ 80% ให้ชัดๆ ได้ไหมครับ เผื่อจะเจอประเด็นที่น่าสนใจ)
User avatar
nopantaman_agian
 
Posts: 168
Joined: Sun Aug 07, 2011 1:08 am

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Gop » Tue Oct 18, 2011 8:03 pm

nopantaman_agian wrote:
1. เท่าที่อ่านและตีความตามความเข้าใจของผมเองนะครับ ที่ดินสีส้มคือให้สร้างที่อยู่อาศัยครับ แต่จริงๆ แล้วทั้งกฎทั้ง 2 ฉบับ(42,49) จะมีช่องเปิดไว้ทั้งคู่คือ
ใช้เพื่อการอื่นได้ 10% อย่างที่ดราม่าเคยเอามาตีขลุมนั่นแหละครับ http://www.reic.or.th/home_eng/news/news_detail.asp?nID=15862&p=40&s=15&t=13
เพียงแต่ประเด็นนี้ผมยังไม่เล่น เพราะมันจะแค่สรุปได้ว่ากฎหมายไม่ได้เอื้อมากขึ้น ซึ่งคนบางจำพวกชอบจินตนาการว่า ไม่ได้เอื้อก็คือโกง เหมือนหลายล็อคอินในกระทู้นี้
ดังนั้นผมเลยชี้ประเด็นสำคัญโดยสมมุติว่า 10% นั้นเต็มไปนานแล้ว แล้วมาดูประเด็น FAR ที่เห็นชัดเจนกว่าแทน

2. ที่ผมบอกว่า พ.ท. ใช้สอยเป็นตัวกำหนดราคา เพราะถ้าคุณจะสร้างตึกเพื่อขาย เขาคิดราคาขายตาม ตร.ม. ครับ ส่วนการออกแบบอาคาร เป็นต้นทุนที่ฟิกเอาไว้
ไม่ว่าออกแบบง่ายหรือยาก ก็ไม่ทำให้กำไรสูงขึ้นเท่าไรครับ (ถ้ายังไงช่วยอธิบายว่าเหลือประมาณ 80% ให้ชัดๆ ได้ไหมครับ เผื่อจะเจอประเด็นที่น่าสนใจ)


อย่าลืมไปคุยกันต่อที่เว็บใหม่นะครับ
๑ ผมมองว่าประเด็นแรกนั้นสำคัญ เพราะมันทำให้เห็นชัดว่า เดิมทำอะไรได้ แล้วกฎหมายใหม่ทำอะไรได้ โดยส่วนตัวผมเห็นว่าอาคารแต่ละแบบมีศักยภาพของมัน
อยู่นะครับ คุณลองคิดเล่นๆว่า กฏหมายเก่าห้ามสร้างอาคารสูงนั้น อาคารหน้าตามันเป็นอย่างไรครับ จะดึงดูดลูกค้าได้แค่ไหน ถ้าคุณต้องการใช้พื้นที่ให้เต็มประ
สิทธิภาพ คุณก็ต้องทำชั้นเตี้ยๆ จะได้มีจำนวนชั้นเยอะๆ ขณะที่แบบใหม่นั้นสามารถสร้างโดยไม่ต้องกลัวเรื่องความสูงเลย คุณลองจินตนาการถึงที่ดินผืนนั้น มีพื้น
ที่ถึง ๓๓ ไร่ คุณสามารถสร้างอาคารที่มีพื้นที่รวมกันได้ 33 x 4.5 = 148.5 ไร่ = 1600 X 148.5 = 237600 ตารางเมตร คุณลองจินตนาการต่อว่า คุณสามารถ
สร้างตึกที่มีพื้นที่อาคารรวมไม่เกิน 10000 ตารางเมตร แทบจะกี่หลังก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสูงอีกต่อไป อย่างเช่น คุณสามารถสร้างตึกที่มีพื้นที่ชั้นละ
400 ตารางเมตร สูง 25 ชั้นได้ โดยที่ของเก่าไม่มีทางทำได้เลย โดยส่วนตัวผมยังเห็นว่ากฏหมายใหม่นั้นเพิ่มศักยภาพที่ดินผืนนี้นะครับ แต่ก็แล้วแต่มุมมองของ
แต่ละคน ผมเองก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ ใครมีความรู้ก็ลองพิจารณาดูนะครับ

๒ เรื่องตัวเลข ผมเอาจากที่คุณให้มานั่นแหละครับ ผมเองไม่ทราบว่าของเก่าสร้างอะไรได้บ้าง เลยสมมุติเอาจากฏกระทรวงที่คุณให้มา โดยใช้ระเบียบของอาคารสูง
แล้วสมมุติว่ามันสร้างสูงเกิน 23 เมตรไม่ได้ จึงสมมุติว่าเป็นอาคาร 8 ชั้น และในกฏกระทรวงระบุว่าต้องมีพื้นที่ว่าง ร้อยละ 30 ดังนั้นในหนึ่งไร่ = 1600 ตารางเมตร
จะเหลือพื่นที่อาคารหนึ่งชั้น = 0.7X1600 = 1120 ตารางเมตร ถ้าทำตึก 8 ชั้น พื้นที่อาคารรวมคือ 1120x8= 8960 ตารางเมตร ขณะที่กฏหมายใหม่ ไม่ถูกจำกัดความ
สูง แต่จำกัดอัตรส่วนพื้นที่อาคารต่อพื้นที่สร้างอาคารไว้ที่ 4.5 ต่อ 1 ดังนั้น พื้นที่ก่อสร้าง 1600 ตารางเมตร จะมีพื้นที่อาคารรวมได้ 1600x4.5 = 7200 ตารางเมตร
เปรียบเทียบของใหม่/ของเก่า = 7200/8960 = 0.8036 หรือประมาณ 80 เปอร์เซนต์ อย่าลืมว่าตัวเลขของแบบเก่า ผมคิดแบบยัดมันเต็มที่ตามกฏหมาย ไม่ได้คิดถึง
เรื่องความสวยงาม หรือเรื่องอื่นๆเลย ขณะที่แบบใหม่ ผมเพียงแค่ต้องระวังเรื่องพื้นที่ โดยสร้างไม่ให้เกินก็พอ แต่เรื่องอื่นๆ ผมไม่ต้องกังวล

User avatar
Gop
 
Posts: 837
Joined: Sun Jun 27, 2010 4:13 pm

Re: จะมีโอกาสมั้ยที่จะทำให้คนเสื้อแดงเข้าใจ

Postby Bookmarks » Tue Oct 18, 2011 9:00 pm

เอามาให้ดู ว่า ระหว่าง มารอะเกน กับ รอง ผอ สำนักผังเมือง ที่ไปให้การต่อศาล แล้วจะเชื่อใคร
จากที่อ่านในพันทิพ เสื้อแดงเลือกที่จะเชื่อ นพเหล่ ทนายแม้ว ที่แก้ต่างในศาล ให้แม้วว่า คุณอภิรักษ์ เป็นคนเซ็นต์ ซึ่งเป็นฝ่ายตรงกันข้าม มันไม่เห็นเกี่ยวเลยว่าเป็นตรงข้ามแล้วเซ็นต์ไม่ได้ ในขณะที่ รอง ผอ. ผังเมืองให้การต่อศาล กลับไม่เชื่อ
สรุปเลือกที่จะเชื่อ ในฝั่งของตัวเอง ในขณะคนที่ทำงานกับผังเมืองให้การ กลับไม่เชื่อ :?: :?:

ผอ.สำนักผังเมือง กทม. เบิกความ มัด"พจมาน" เผยหลังซื้อที่ดินรัชดาแล้ว อนุญาตให้สร้างตึกสูงได้

พยานเบิกความชี้หลัง "อ้อ" ซื้อที่ดินแล้ว ให้สร้างตึกสูงได้

สำหรับพยานที่เข้าเบิกความประกอบด้วย นายทร ชาวพิจิตร เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีกระทรวงยุติธรรม เบิกความในประเด็นการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด นางวิบูลย์เพ็ญ หิตะพันธ์ เจ้าหน้าที่ตรวจเงินแผ่นดิน 9 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้าเบิกความในประเด็นการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันการเงิน และธนาคารแห่งประเทศไทย น.ส.มาลี แม้นมินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร ขึ้นเบิกความในประเด็นการควบคุมการก่อสร้างอาคารสูงในที่ดินย่านรัชดาภิเษก ที่ก่อนการซื้อขายห้ามสร้างอาคารสูงเกิน 9 ชั้น แต่ภายหลังจำเลยซื้อที่ดินแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอนุญาตให้สร้างตึกสูงได้ จากนั้นนางพวงทิพย์ ปรมาพจน์ ผู้อำนวยการธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเบิกความการปรับลดราคาที่ดินพิพาท และการเปลี่ยนแปลงการลงบันทึกในระบบบัญชี ต่อมานางวิไลวรรณ ศศานนท์ เจ้าหน้าที่ สตง. เข้าเบิกความจนเสร็จสิ้นแล้ว

ศาลแจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลจะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อประชุมองค์คณะและมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องที่ทนายจำเลยยื่นวันนี้ และให้คู่ความรอฟังคำสั่งในรายงานกระบวนการพิจารณา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีคำสั่งไม่อนุญาตให้ถอนทนายแล้ว และเมื่อศาลมีคำสั่งให้ดำเนินการไต่สวนพยานที่เตรียมมาวันนี้ให้เสร็จสิ้น ระหว่างที่ไต่สวนศาลเปิดโอกาสให้ทนายความจำเลยซักถามพยาน ซึ่งฝ่ายจำเลยเป็นผู้จัดเตรียมมาตามบัญชีนัดพยาน แต่นายเอนกไม่ใช้โอกาสซักถามพยาน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่เหมือนการไต่สวนพยานจำเลยที่ผ่านมาช่วงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณและคุณหญิงพจมานจะเดินทางไปที่ประเทศอังกฤษ ศาลจึงเป็นผู้ซักถามพยานแทน ขณะที่อัยการโจทก์กลับใช้โอกาสซักค้านพยานจำเลยอย่างเต็มที่

http://www.matichon.co.th/news_detail.p ... 1218811535
User avatar
Bookmarks
 
Posts: 8298
Joined: Sun Feb 22, 2009 5:15 pm

Previous

Return to สภากาแฟ



cron