มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

Re: มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

Postby kainuy555 » Tue Oct 18, 2011 5:26 am

E_mail wrote:จะตั้งตัวเป็นเจ้าทฤษฎีแก้ไขปัญหาน้ำท่วม แค่ลำตะคองยังเรียกผิด เพิ่งจะมาถูกเอาอีตอน"ตัดแปะ"

ถามนุ้ยจริงๆเหอะ เกิดมาเคยไปมาเลเซียกี่ครั้งแล้วครับ?

เคยไปสำรวจภูมิประเทศ , ลักษณะของชั้นหิน/ดิน ของที่นั่นหรือยัง?

สมัยเรียนที่ภาคพาไปออกทริปสำรวจของวิชาgeo.อยู่2ครั้ง ถึงจะเคยไปแค่กลันตัน-ตรังกานูแค่2รัฐเอง....แต่อ่านมา3หน้าผมมั่นใจว่ารู้เรื่องภูมิประเทศแถบนั้นมากกว่าหนูนุ้ย300ล้านแน่ๆ

อ้างสารพัดทฤษฎีมาได้มั่วชิ*หา* ..... จะยกวิธีของเขามาโม้ ทราบหรือยังครับว่า

1.ท่อที่คุณยกมาพล่ามมันยาวกี่กิโลเมตร

2.(อันนี้ง่ายมากๆ)พื้นที่ราบลุ่มส่วนที่ไม่ได้เป็นชั้นหิน,ไม่ได้เป็นที่ลาดชันเชิงเขา ส่วนกว้างที่สุดของมาเลเซีย มีความยาวกี่กิโลเมตร ?

ถ้ารู้2ข้อนี้ ก็คงไม่มาโชว์สะเหร่ออยู่แบบนี้หรอก :?


นี่คือความคิดเห็นเห็นของคน คิดต่าง ระดับเกรียน 555

ถ้าเห็นว่ามันมีประโยชน์ ก็นำไปใช้
ถ้าคิดว่าไม่มีประโยชน์ ก็โยนทิ้งไป ก็เท่านั้น
คิดไรมากท่าน
User avatar
kainuy555
 
Posts: 1462
Joined: Mon May 16, 2011 9:35 pm

Re: มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

Postby sanskrit_shower » Tue Oct 18, 2011 10:17 am

ตอนที่ผมเข้างานใหม่ๆ ที่ทำงานก็พาไปดูงานที่เขื่อนลำตะคองนี้เช่นกัน

กว่าจะเข้าไปถึงเจนเนอเรเตอร์ที่ผลิตไฟฟ้า ต้องนั่งรถเข้าไปในภูเขาที่เจาะเอาไว้ลึกมาก คิดเล่นๆว่าถ้าเกิดระเบิดขึ้นมาคงโดนฝังอยู่ใต้ดินแน่ๆ


ทีนี้ลองมาคิดไปพร้อมๆกันนะครับว่า ระบบส่งไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแห่งนี้ จ่ายไฟได้ด้วยกำลังไฟฟ้าเท่าไหร่ และเมื่อเทียบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าในกรุงเทพนั้น ต้องใช้กำลังไฟฟ้าเท่าไหร่ load frofile ของทั้ง 2 พื้นที่นั้นเหมือนหรือต่างกันอย่างไร มีความเมาะสมหรือไม่ที่จะนำแนวคิดที่ใช้กับโรงไฟฟ้าลำตะคองมาใช้กับโรงไฟฟ้าที่ผลิตไฟฟ้าจ่ายให้กรุงเทพ

ลองคิดเล่นๆกับ load frofile ก่อนนะครับ peak load กับ light load ของ พื้นที่ๆโรงไฟฟ้าลำตะคองจ่ายไฟให้นั้น ค่อนข้างต่างกันเยอะครับเพราะloadในพื้นที่ดังกล่าวเป็นโหลดชาวบ้าน+เมือง ดังนั้นช่วงที่ใช้ไฟเยอะคือช่วงที่เพิ่งตื่นนอนแต่งตัวไปทำงานและดูทีวี อีกช่วงนึงคือตอนกลับบ้านดูละคร ส่วนช่วงที่ใช้น้อยสุดคือตอนหลัง4ทุ่มถึงเช้ามืด เพราะเป็นเวลานอน

ดังนั้นเราสามารถใช้แนวคิดสูบน้ำกลับเพื่อปั่นไฟมาใช้ได้ เนื่องจากเราสามารถใช้ไฟฟ้าส่วนต่างระหว่างpeak load และ light load เพื่อเป็นพลังงานในการสูบน้ำกลับ

แต่โหลดกรุงเทพหรือบริเวณที่ใช้ไฟเยอะๆนั้นมี profile ไม่ต่างกันมากครับ เพราะมีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวตอนกลางคืน การใช้ชีวิตประจำวันของคนเมืองที่ต่างกับคนต่างจังหวัด โรงงานบางแห่งที่เดินเครื่องจักรตอนกลางคืนเพราะค่าไฟฟ้าตอนกลางคืนถูกกว่า(TOU มิเตอร์) ดังนั้นแนวคิดที่ว่านำพลังงานส่วนต่างมาใช้สูบน้ำกลับ เพื่อปั่นไฟใช้นั้น คงใช้ไม่ได้หรอกครับ

แล้วหากจะทำละ พอจะทำได้มั้ย ผมก็มีความคิดว่าหากบ้าเลือดจะทำจริง ก็ทำได้ครับ แต่ต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการสูบน้ำกลับ เพื่อให้เพียงพอกับปริมาณโหลดในกรุงเทพ ลองคิดดูเล่นๆว่าโหลดของกรุงเทพกับโคราชนั้น ต่างกันกี่เท่า เอาง่ายๆนะครับ กรุงเทพนั้นคือทั้งหมดของการไฟฟ้านครหลวงแต่โคราชนั้นคือเสี้ยวเดียวของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เราจะหาพลังงานที่ไหนมาเพื่อสูบน้ำกลับครับ แล้วหากสูบกลับมันต้องมีที่สูงให้น้ำอยู่ด้วยนะครับเพื่อที่น้ำที่ตกลงมาจะมีพลังงานเพียงพอให้ปั่นกังหัน (Ep = mgh) ดังนั้นอุโมงค์ที่ว่าต้องมีความแตกต่างเรื่องความสูงเพียงพอด้วยนะครับ

จริงๆแล้วผมชื่นชมในความพยายามของ จขกท นะครับที่พยายามหาแนวคิดเพื่อแก้ปัญหา แต่คนเรานั้น จะคิดอะไรต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้ด้วยนะครับ
User avatar
sanskrit_shower
 
Posts: 1141
Joined: Mon Oct 13, 2008 9:52 am

Re: มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

Postby E_mail » Tue Oct 18, 2011 3:46 pm

อ้อ....ครับ

พอสะกิดถามว่าจะยกทฤษฎีขึ้นมาฝอยหน่ะ รู้ข้อเท็จจริง/ปัจจัย/สิ่งแวดล้อมฯลฯ ของเขาหรือยัง? , ถามรวบง่ายๆว่ามีความรู้ในเรื่องที่พูดบ้างหรือเปล่า?...ก็กลายเป็นเกรียนไปซะแล้ว :lol:

สรุปว่าให้โยนทิ้งไปได้เลยใช่ไหมครับ ?

กร๊ากกกกกกกกกก :lol: :lol: :lol:
Nemo vir est qui mundum , non reddat meliorem?

What man is a man , who does not make the world better?
User avatar
E_mail
 
Posts: 101
Joined: Tue May 18, 2010 10:57 am

Re: มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

Postby เพลิงสีนิล » Tue Oct 18, 2011 3:50 pm

E_mail wrote:อ้อ....ครับ

พอสะกิดถามว่าจะยกทฤษฎีขึ้นมาฝอยหน่ะ รู้ข้อเท็จจริง/ปัจจัย/สิ่งแวดล้อมฯลฯ ของเขาหรือยัง? , ถามรวบง่ายๆว่ามีความรู้ในเรื่องที่พูดบ้างหรือเปล่า?...ก็กลายเป็นเกรียนไปซะแล้ว :lol:

สรุปว่าให้โยนทิ้งไปได้เลยใช่ไหมครับ ?

กร๊ากกกกกกกกกก :lol: :lol: :lol:


เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง ทฤษฏี ไม่ต้องมีก็ได้ครับ

เขามีความสามารถทางศิลป เพียงพอ

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:
User avatar
เพลิงสีนิล
 
Posts: 513
Joined: Fri Jul 08, 2011 3:02 pm

Re: มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

Postby poo48 » Tue Oct 18, 2011 5:38 pm

มันต่างกันครับถ้าจะเทียบกับมาเลย์เขา เพราะน้ำาที่เข้ามาก็ไม่ได้รับมาจากที่ไหน อย่างกรุงเทพมีอุโมงค์น้ำ แต่อย่างลืมอีกฝั่งขอมาเลย์ยังกันดารอยู่นะครับ แก้ปัญหาน้ำในเมืองไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำเหนือที่ไหนมาเป็นล้านๆได้
อีกอย่างภาครัฐเขาบริหารกันดี ไม่เหมือนของเรารัฐวิสาหกิจเราตั้งแต่มีรถไฟยังรักษามาตราฐานได้ดีเหมือนเปิดบริการใหม่ครั้งแรก ภาครัฐแย่งกันสร้างเอาหน้ากัน พอเป็นรัฐบาลใหม่ก็ยกเลิก เอานโยบายใหม่ ไม่ต่อเนื่อง
User avatar
poo48
 
Posts: 7
Joined: Sun May 16, 2010 6:32 pm

Re: มาเลฯ เขาแก้ปัญหาน้ำวิธีนี้ครับ

Postby kainuy555 » Tue Oct 18, 2011 9:42 pm

เพลิงสีนิล wrote:
E_mail wrote:อ้อ....ครับ

พอสะกิดถามว่าจะยกทฤษฎีขึ้นมาฝอยหน่ะ รู้ข้อเท็จจริง/ปัจจัย/สิ่งแวดล้อมฯลฯ ของเขาหรือยัง? , ถามรวบง่ายๆว่ามีความรู้ในเรื่องที่พูดบ้างหรือเปล่า?...ก็กลายเป็นเกรียนไปซะแล้ว :lol:

สรุปว่าให้โยนทิ้งไปได้เลยใช่ไหมครับ ?

กร๊ากกกกกกกกกก :lol: :lol: :lol:


เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง ทฤษฏี ไม่ต้องมีก็ได้ครับ

เขามีความสามารถทางศิลป เพียงพอ

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:


อย่าดูถูก เป็นเจ้าของโรงน้ำแข็ง เถ้าแก่เลยนะ ใช่ว่าทุกคนจะเป็นได้
แม้แต่ท่านเอง 555 สงสัยซื้อกินเป็นอย่างเดียว ทำไม่เป็น 555
User avatar
kainuy555
 
Posts: 1462
Joined: Mon May 16, 2011 9:35 pm

Previous

Return to สภากาแฟ