กู้อีก 5แสนล้านเผาไทยและแม้ว ติดปีกเลย

เรื่องการเมือง เชิญที่นี่เลยครับ
Forum rules
- ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
- ห้ามโพสกระทู้หรือข้อความที่ดูหมิ่นเสียดสีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอันขาด

เชิญทุกท่านเข้าสู่บอร์ดใหม่ได้ที่ http://webboard.serithai.net ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ viewtopic.php?f=2&t=44976 ครับ

กู้อีก 5แสนล้านเผาไทยและแม้ว ติดปีกเลย

Postby novic » Tue Oct 18, 2011 11:42 am

แล้วก็เป็นไปตามคาด กู้อีก 5แสนล้านทำโครงการมหาแด๊ก ประนิยมสุดลิ้มทิ้มประตู งานนี้ไอ๊แม้วได้หลายเด้ง
20-30 % จากโครงการลงทุนซื้อเสียง 15ล้านไปกว่าเกือบ2หมื่นล้านครั้งก่อนถอนทุนไม่เกินครึ่งปี ส่วนไอ้พวกแดงที่ ไม่ว่าน้้ำจะท่วม ญาตจะตายบ้านจะพัง หมดสิ้นประดาตัว ผมยังคงยืนยันได้ว่าพวกนี้จะจงรักภักดีต่อแม้ว และตระกูลนี้ไปจนวันตาย
แม้เดือนหน้ามันจะยุบสภาหนี มันก็จะยังเลือกเข้ามา แถมมันจะกลับมาไล่ล่าทหารอีกรอบ ให้แก้ พรบ ทหารเพื่อกำกัดเสี้ยนหนามอย่างรวมเร็ว ผม
จึงบอกว่าถ้าท่านขุนทหารจะทำอะไร ก่อนให้มันเด็ดขาดก่อนธันวานี้แหละดวงกำลังขึ้น ไม่งั้นมันล่อท่านแน่ แต่ก็ฝากไว้ด้วยถ้าเล่นมันก่อน จำนวน สส เขต แต่ละภาคแบ่งใหม่ด้วยเป็น 9ภาค ภาคละ 40 คนแก้ รธน ให้รวดเร็วเสียงเผาไทย พวกมันอย่างมาก 15ล้านแต่เสียงสนับสนุนแก้มีมากกว่า 30ล้านผ่านแน่นอน ส่วน แป๊ะลิ้มก็หาทางลงได้แล้วเตรียมไปเมืองจีนแล้ว สบายแฮจริงๆ :lol: :lol: :o
User avatar
novic
 
Posts: 130
Joined: Wed Jun 23, 2010 1:46 pm

Re: กู้อีก 5แสนล้านเผาไทยและแม้ว ติดปีกเลย

Postby SpikyMoss » Tue Oct 18, 2011 11:54 am

ปกติที่มันดึงกันไปแค่ 25-30 มันก็เอาไปได้ถึง 150,000 เลย
การทำดีนั้นทำยากและเห็นผลช้าแต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ความชั่วซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ - คำสอนพ่อหลวง
User avatar
SpikyMoss
 
Posts: 1754
Joined: Mon Apr 13, 2009 7:43 pm

Re: กู้อีก 5แสนล้านเผาไทยและแม้ว ติดปีกเลย

Postby thanong » Tue Oct 18, 2011 11:57 am

ฟังไว้อย่าไปตื่นเต้นมาก กู้เงินก็ต้องมีกฏหมาย เข้าสภา ท่ามันมีเหตุผลจำเป็นจิงจิงก็ไม่แปลก เอาเหตุและผลดีกว่า พวกเรา สรท ไม่ใช่ ควายแดง หรือ สาวกไอ้แป๊ะ
User avatar
thanong
 
Posts: 5110
Joined: Wed Nov 24, 2010 4:27 am

Re: กู้อีก 5แสนล้านเผาไทยและแม้ว ติดปีกเลย

Postby novic » Tue Oct 18, 2011 12:02 pm

หมอดูฉบับคู่มือรัฐบาล ปี ๒๕๕๕

เปลว สีเงิน
18 ตุลาคม 2554 - 00:00
ผมว่า นอกจากเหลวแล้วยังชักเลอะไปใหญ่นะครับ ถึงเวลาต้องคิดกันแล้วว่า..มันคุ้มมั้ย ที่จะปล่อยให้รัฐบาลใช้แค่คำว่า "ขอโทษครับ..เสียใจค่ะ" ลบล้างความผิดพลาดโดยสุจริตในการบริหารวิกฤติน้ำครั้งแล้ว-ครั้งเล่า จนความผิดพลาดนั้นสร้างความวิบัติซ้ำๆ ซากๆ ให้กับชีวิตและทรัพย์สินทั้งรัฐ-ทั้งราษฎร์มหาศาล จำไว้...ไม่มีใครหวังให้รัฐบาลเสกน้ำให้แห้ง แค่หวังให้บริหาร-จัดการปัญหาให้เป็นระบบ เพื่อสูญเสียให้น้อยที่สุดเท่านั้น
ก็เห็นกันแล้ว "วิกฤติน้ำ" น่ะว่ายาก แต่ควบคุมง่ายกว่า "วิกฤติมนุษย์" ยามตื่นภัย ประเทศชาติหนึ่งๆ จะไปได้ขนาดไหน เขาก็ดูกันที่ "ทรัพยากรมนุษย์" ชาตินั้นๆ ในยามบ้านเมืองมีภัย หรือยามสังคมมี "วิกฤติชาติ" ที่ต้องฟันฝ่าร่วมกัน!
กับของเราที่เห็น รัฐบาลไม่สามารถควบคุมฝูงชนให้เชื่อฟังและปฏิบัติตามได้ ยามแตกตื่น ชาวบ้านทำความเข้าใจกับคำว่า "ส่วนตัว-ส่วนรวม" ไม่ได้ ดังนั้น ที่เราเห็นในหลายๆ จุด เรารักษาไว้ได้ ถ้ายอมสละส่วนตนเพื่อส่วนรวม แต่นี่..กลับต้องพินาศไปด้วยกัน
เพราะข้าจม เอ็งก็ต้องจมด้วย!
ความแตกตื่นเอาตัวรอด มันเป็นสัญชาตญาณมนุษย์ แต่ผมเวทนาการจัดการปัญหามวลชนของยิ่งลักษณ์ การทำอย่างที่ ศปภ.ทำ คือให้ใครซักคนที่มีปากและพูดได้ ไปนั่งหน้าจอแล้วบอก...ขอความกรุณาด้วยครับ..ขอความร่วมมือด้วยครับ
อย่ารื้อ..อย่าปิด หรืออย่าเปิด ประตู-พนัง-กระสอบกั้นน้ำ!
โถ...ถ้าเป็นตัวเองล่ะ แค่คำขอร้อง..จะเชื่อมั้ย เลิกรื้อกระสอบ ยอมให้น้ำไหลบ่าไปทางบ้านตัวเองมั้ย ซึ่งก็ต้องเข้าใจจะประณามคนส่วนนั้นเขาก็ไม่ได้ เพราะยามตื่นภัย เกาหลังสั่งไม่หยุด-ไม่ฟังหรอก มันต้องทุบหลังพลั่ก จึงฟัง-จึงหยุด
นั่นคือการควบคุมฝูงชน ขณะนี้ "คำขอร้อง" ไม่เป็นผล มันถึงขั้นต้องใช้ "คำสั่งเด็ดขาด" จึงเป็นผล!
มีแต่คำสั่งที่เด็ดขาดเท่านั้นที่จะ "หยุด" ความแตกตื่น ความสับสนอลหม่านของฝูงชนชนิดเอาแต่ตัวเองเป็นที่ตั้งได้ แล้วนำ "ระเบียบ-วินัย" เข้าควบคุม จากนั้นนำคน-นำเครื่องมือเข้าปฏิบัติการกับปัญหานั้นๆ ให้ "เฉียบขาด" ตามแผนปฏิบัติ
ที่เขาให้ใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินก็เพราะอย่างนี้ ไม่เข้าใจแล้วยังจีบปากพูด...เราสู้กับน้ำ ไม่ได้สู้กับคน...เชื่อไปซี ไอ้พวกกุนซือหลังม่านน่ะ มันกลัวว่าถ้าให้ทหารทำ ทหารจะได้หน้า-ได้ตา ส่วนรัฐบาลได้แต่บาร์บี้ มันก็เท่านั้นแหละ!
ไหนว่า "มวลน้ำก้อนใหญ่" ไหลลงทะเลไปหมดแล้วไง แล้วมวลน้ำก้อนน้อยของยิ่งลักษณ์ก้อนไหนล่ะ ที่ไหลทะลักเข้าทลาย "นวนคร" จมไปอีกวานนี้ (๑๗ ต.ค.๕๔) ขืนสะเปรอะในการออกข่าว สลับกับคำ..ขอโทษครับ..เสียใจค่ะอย่างนี้ไปเรื่อยๆ
ชาว กทม.มีสิทธิ์จมน้ำคาบ้านขณะนอนหลับ เพราะเชื่อคำที่รัฐบาลบอก "กทม.เราเอาอยู่"!
ตอนนี้คนกรุงเทพฯ คงไม่หวังอะไรมาก นอกจากหวังให้รอดได้ไปจอง "รถคันแรก-บ้านหลังแรก" เท่านั้นแหละ!!
เฮ้อ...หาอะไรที่สบายใจคุยกันดีกว่า ผมชอบอ่านมติชนออนไลน์ เขามีข่าวน่ารัก..น่ารัก..ของรัฐบาล นปช. โดยเฉพาะข่าวกุ๊กกิ๊ก-คิกขุอาโนเนะของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ อย่างวัน-สองวันนี้ เอาคำพยากรณ์ประจำปี ๒๕๕๕ ในหนังสือ "ศาสตร์แห่งโหร" ที่อาจารย์โสรัจจะ นวลอยู่ เขียนพยากรณ์ไว้มาลง
อ่านแล้วเลือดฉีดซ่านตามสไตล์โหรโสรัจจะ ค่อยหายเครียดปัจจุบันหน่อย ลองไปดูอนาคต-ปีหน้าบ้าง ผมว่าจะเครียดเป็น ๒ เท่าน่ะนา ต่อไปนี้ผม "ลอกมา" จากมติชนออนไลน์ นะครับ
โสรัจจะทำนายว่า โลกจะสิ้นสุดก็เพราะไฟ ไฟจะทำลายทุกสิ่งทุกอย่างให้พินาศสูญไป แต่ที่เราเห็นอยู่ในขณะนี้ก็คือไฟจากกิเลสตัณหาของมนุษย์ ที่กำลังแผดเผาผู้คนให้ย่อยยับไปทุกๆ ขณะอยู่แล้ว เพราะบัดนี้ผู้ปกครองประเทศและประชาชนไม่ตั้งมั่นในศีลธรรม และกุศลจิตของชนทั้งหลายเสื่อมคลายลง ก็จะเกิดความเดือดร้อนกันไปทั่ว ข้าวยากหมากแพง เกิดการรบราฆ่าฟันกัน และเกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สุด ที่มนุษย์ไม่สามารถจะดำรงเผ่าพันธุ์ต่อไปได้ ตั้งแต่ต้นปี "พระอังคาร หัวหน้าใหญ่บาปเคราะห์เดินขบวนอยู่ราศีสิงห์, ราศีกันย์ เกตุ, ราศีตุล ดาวเสาร์, ราศีพิจิก ราหู ล้วนเป็นขบวนดาวบาปเคราะห์ทั้งสิ้น นับเป็นขบวนผีห่าซาตานเข้ามาคร่าผลาญชีวิตชาวโลก"
“ดาวพฤหัสบดี ดาวฝ่ายคุณธรรมความดี ย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภในวันที่ 15 พฤษภาคม 2555 เล็งพระราหู ฝ่ายอธรรม ซึ่งสถิตราศีพิจิก แบบนี้คงได้เห็นลางว่าจะมีการสัประยุทธ์ใหญ่เกิดขึ้น”
“พระราหูสถิตอยู่ราศีพิจิก จนกระทั่งวันที่ 10 ธันวาคม 2555 ย้ายเข้าสู่ราศีตุล เล็งลัคนาดวงเมืองราศีเมษ เข้าร่วมพระเสาร์ดาวคู่มิตร จึงช่วยกันเข้าถล่มเมืองไทยอย่างแท้จริง”
แต่ดวงดาวของโลกในปีมะโรง 2555 ที่น่าเอาใจใส่และเป็นห่วงที่สุดก็คือ ประเทศไทยเรานี่แหละ ไม่ต้องไปดูอะไรให้ไกลตัว
ประเทศไทยในปี 2555 นี้ มีสิ่งที่น่าจะเพ่งเล็ง คือประเทศไทย เดือนมกราคม, กุมภาพันธ์, มีนาคม เริ่มเกิดความวิบัติทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยพายุโซนร้อนหลายระลอก เป็นสิ่งวิปริตอาเพศเพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นเลย
น้ำท่วมจังหวัดในภาคเหนืออย่างรุนแรงเป็นแรมเดือน แล้วก็ลามลงมาภาคกลางไปจนทั่วประเทศ และรวมทั้งภาคใต้ด้วย สูญเสียผู้คนจำนวนมากและเสียหายเงินเหลือคณานับ ไร่นา ปศุสัตว์ล่ม กรุงเทพฯ ก็จมอยู่ในน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวฝั่งธนบุรี
และเหตุการณ์เช่นเดิมนี้ก็เกิดขึ้นอีกครั้งในเดือนมิถุนายน, กรกฎาคม, สิงหาคม, กันยายน, ตุลาคม, พฤศจิกายน และธันวาคม ประชาชนชาวไทยที่ยากจนจำต้องเผชิญกับความทุกข์ยากที่หนักและรุนแรงกว่าปีก่อนๆ เสียหายยับเยินไปทั่วทุกจังหวัด และทั่วทั้งประเทศเฉลี่ยไปโดยทั่วถึงกัน เป็นทุพภิกขภัยโดยแท้
อาถรรพ์ของดวงดาวบาปเคราะห์เสาร์อริอย่างเต็มที่ บ่งถึงว่าสภาวะของประเทศเกิดความแตกร้าวอย่างรุนแรง ไม่อาจจะผสานกันได้ แสดงให้เห็นจุดยุ่งยากของหัวหน้ารัฐบาลจะต้องเผชิญ
ดวงเมืองแห่งยุคการคลั่งไคล้ประชาธิปไตยครึ่งใบนี้ ในเดือนมีนาคม 2555 ดาวอาทิตย์ (คือประมุขของรัฐบาล) กำลังโคจรเข้าสู่ภพวินาศนะของราศีเมษพอดี และถูกบาปเคราะห์ทำมุมกากบาท แล้วยังโดนดาวเสาร์เล็งแบบหัวไม่วางหางไม่เว้น เท่านี้จะมีอะไรเหลือ
และขณะเดียวกันความยุ่งยากทางการเมืองภายใน จะก่อความร้าวฉานทวีขึ้นอย่างไม่มีจบสิ้น แล้วยังมีเหตุอันร้ายแรงแก่พรรคการเมืองที่ยิ่งใหญ่เก่าแก่พรรคหนึ่งของประเทศไทย ซึ่งมีลัคนาของดวงพรรคอยู่ราศีกันย์ กำลังโดนเกตุบาปเคราะห์ทับและโดนดาวบาปเคราะห์เสาร์กับอังคารบีบข้างหน้า และข้างหลังก็ย่ำแย่เฉกเช่นกัน อาจถึงขั้นพรรคแตก, ล่มสลายไปหมดทางแก้ไข เป็นระยะของการปลอดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคยยึดเหนี่ยว เพราะความเสื่อมของผู้คนในพรรคนี้ก็เป็นได้ ที่ไม่จริงใจต่อประเทศชาติซ่อนเร้นมาตลอด
เดือนเมษายน ประชาธิปไตยของไทยจะพบความประหลาดใจว่า ดาวเจ้าเรือนภพที่ 11 (คือประมุขของรัฐบาล) อันเป็นดาวเสาร์ ซึ่งดาวเสาร์ประมุขรัฐบาลกำลังเดินถอยหลังกรูด ซ้ำร้ายดาวมฤตยู ดาวแห่งการปฏิวัติรัฐประหารยังคงเดินโคจรอยู่ในภพวินาศนะต่อราศีเมษแห่งไทยสยาม
เป็นการยืนยันให้เห็นความเชื่อมโยงถึงการเสื่อมอำนาจของผู้นำโดยแท้ ทุกอย่างสอดคล้องกันอย่างซับซ้อนให้เห็นเช่นนี้ จึงสำแดงให้เห็นถึงสภาวะการตึงเครียด และการเดินขบวนต่อต้านหัวหน้ารัฐบาลกับปรากฏการณ์ที่ส่อเค้าแห่งการเสื่อมอำนาจวาสนาของผู้ปกครองประเทศในระยะนี้ ประมุขรัฐบาลจึงต้องออกจากประเทศไป เหตุการณ์ทุกอย่างจึงสงบและทุเลาลง
แม้จะมีรัฐธรรมนูญ มีการเลือกตั้ง มีคณะรัฐมนตรี มีสภาผู้แทนราษฎร มีศาล และมีพรรคการเมือง ล้วนมีขึ้นเพียงรูปแบบของระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภาเท่านั้น แต่จิตวิญญาณยังมิได้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงเลย อำนาจทางการเมืองผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันอยู่ในกำมือ ของทหารกลุ่มต่าง ๆ ในระบบอำนาจนิยม และได้พัฒนาต่อ
“ตามดวงเมืองต้องปกครองด้วยทหาร”
ตามโบราณของการก่อตั้งดวงเมือง ท่านโหราจารย์ผูกดวงบ้านเมืองไว้กับผู้มีอำนาจในสมัยนั้น เพื่อปกป้องบ้านเมืองให้รอดพ้นจากศัตรู ผู้มีอำนาจในสมัยโบราณก็คือทหารนั่นเอง เพราะฉะนั้นประเทศไทยคงหนีไม่พ้นสิ่งนี้ไปได้ นี่คือข้อเท็จจริง ดังนั้นไม่ต้องมาอ้างว่าเราเป็นประชาธิปไตย เลิกหลอกตัวเองซะทีและเชื่อไปตามที่ตัวเองหลอก เป็นความบ้าคลั่งประชาธิปไตยโดยแบบผิดๆ ปีนี้ควรจะหันมามองความจริงและเผชิญกับมัน
แต่อย่างไรเสียประเทศก็มีดวงดาวที่แข็งกว่า ที่มีอะไรที่หนือกว่าดวงนักการเมืองชั่วเหล่านี้ ประเทศไทยก็จะมีการพัฒนาไปตามขบวนการ หรือจะเรียกว่าการเดินทางของดวงดาว ที่จะมาช่วยบ้านเมืองเอาไว้ได้ เราไม่ “สิ้นชาติ” หรอก แต่เราก็บอบช้ำจากน้ำมือผู้นำชั่วเหล่านั้นไปมากเหมือนกัน เราจะไม่ขอให้ใครหยุดทำเพื่อประเทศอีกต่อไปแล้ว ให้มันเป็นไปตามดวงดาวลิขิตไว้เช่นนี้ละ!!
ดาวของผู้นำประเทศในปี 2555 จะเป็นดวงที่แตกไม่สามารถที่จะเข้ามาประสานต่อไปได้แล้ว ผู้คนทั้งประเทศสิ้นศรัทธาและเกลียดชัง เพราะฉะนั้นผู้นำที่เลวและไม่หวังดีต่อประเทศ คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ก็ต้องเป็นไป ดวงดาวที่โคจรเข้ามาบรรจบกันพอดี
ครับ..ขอย้ำ ลอก "มติชนออนไลน์" ที่เขานำมาลงเรียกน้ำย่อยก่อน "ศาสตร์แห่งโหร" ลงแผง ยังไม่หมด คลิกไปอ่านเอง ผมบอกแล้วนำมาฝากแก้เครียด ไม่ใช่เอามาให้เครียด..ด้วยเชื่อ.
User avatar
novic
 
Posts: 130
Joined: Wed Jun 23, 2010 1:46 pm


Return to สภากาแฟ



cron