slavik wrote:ขบวนการเสรีไทยน่ะ ท่านปรีดี พนมยงค์เป็นผู้ก่อตั้ง แต่ " พวกคุณ" กลับจัดทำเว็บบอร์ดนี้ขึ้นมาโดยไม่ชอบธรรม เอาชื่อเสรีไทยมาแปดเปื้อนอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะพวกคุณน่ะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์กับพวกเผด็จการทหารในการปล้นอำนาจจากประชาชน จำไม่ได้แล้วหรือไง ในอดีตนั้นพวกประชาธิปัตย์เคยสุมหัวกับพวกเผด็จการในการขับไล่ท่านปรีดีพนมยงค์จนท่านต้องไปตายอยู่ต่างประเทศ แล้วทำให้ขบวนการเสรีไทยต้องหลบเข้าป่าไป พวกมันถือสิทธิ์อะไรมาทำเช่นนั้น นี่ถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์น่ะ ท่านปรีดีก็คงไม่ต้องตาย แล้วประชาธิปไตยของไทยคงไม่เป็นแบบนี้หรอก รู้ไว้ส๊ะ ลองไปอ่านประวัติพรรคประชาธิปัตย์ดูสิแล้วพวกคุณจะรู้ ว่ากำลังสนับสนุนเผด็จการอยู่ ประชาธิปัตย์น่ะถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายขบวนการเสรีไทย(พรรคของท่านปรีดีในขณะนั้น)ถามจริงเถอะ ถ้าไม่มีท่านปรีดีและขบวนการเสรีไทย ชาติไทยจะเป็นยังไง ประชาธิปไตยของไทยจะเป็นยังไง ถ้าหากพวกคุณยังรักและนับถือในขบวนการเสรีไทยอยู่ ก็จงเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงซะ เพราะพวกเขาเหล่านั้น คือ ผู้สืบทอดเจตนารมย์ของขบวนการเสรีไทยตัวจริง หรือไม่ก็เปลี่ยนชื่อเว็บบอร์ดนี้เป็น " ขบวนการกดขี่ไทย " หรือไม่ก็ " ขบวนการปกป้องเผด็จการ " หรือไม่ก็ " บอร์ดพันธมาลแห่งที่สอง" ไปเสียเถิด อย่าเอาคำว่าเสรีไทยอันสูงส่งมาใช้ต้มตุ๋นคนอื่นเลย ถ้าแน่จริงอย่าลบ ถ้าลบถือว่าไม่ใช่คนไทย
Bookmarks wrote:ผมชอบเวปนี้นะครับ เพราะให้ความรู้และมีเหตุผลในการโต้แย้ง มีหลักฐานในการนำเสนอ ซึ่งผมเข้ามาอ่านในนี้นานพอสมควรแต่ไม่เคยเข้ามาเสนอความคิดเห็น ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่เป็นฝ่ายเสื้อแดงพยายามที่จะยึดทุกที่ที่มีความเห็นต่างไปเป็นของตัวเอง โดยการด่าทอและการตอบที่ไร้เหตุผล และผมก็ไม่เข้าใจว่าคนไทยฝ่ายเสื้อแดงทำไมถึงพูดด้วยเหตุผลและหลักฐาน ทำไมถึงยอมรับความจริงไม่ได้ ยิ่งคิดแล้วก็น่าใจหายนะครับ กับลูกหลานไทยในอนาคตที่จะมีพ่อและแม่เป็นแบบนี้
slavik wrote:เดี๋ยวผมจะเอารูปผมมาลง คุณจะได้รู้ว่าผมเป็นใครเลยจะดีมั๊ย
== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==
พวกคุณก็ต้องเอามาลงเหมือนกันน่ะ ไม่งั้นหน้าตัวผู้
slavik wrote:ขบวนการเสรีไทยน่ะ ท่านปรีดี พนมยงค์เป็นผู้ก่อตั้ง แต่ " พวกคุณ" กลับจัดทำเว็บบอร์ดนี้ขึ้นมาโดยไม่ชอบธรรม เอาชื่อเสรีไทยมาแปดเปื้อนอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะพวกคุณน่ะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์กับพวกเผด็จการทหารในการปล้นอำนาจจากประชาชน จำไม่ได้แล้วหรือไง ในอดีตนั้นพวกประชาธิปัตย์เคยสุมหัวกับพวกเผด็จการในการขับไล่ท่านปรีดีพนมยงค์จนท่านต้องไปตายอยู่ต่างประเทศ แล้วทำให้ขบวนการเสรีไทยต้องหลบเข้าป่าไป พวกมันถือสิทธิ์อะไรมาทำเช่นนั้น นี่ถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์น่ะ ท่านปรีดีก็คงไม่ต้องตาย แล้วประชาธิปไตยของไทยคงไม่เป็นแบบนี้หรอก รู้ไว้ส๊ะ ลองไปอ่านประวัติพรรคประชาธิปัตย์ดูสิแล้วพวกคุณจะรู้ ว่ากำลังสนับสนุนเผด็จการอยู่ ประชาธิปัตย์น่ะถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายขบวนการเสรีไทย(พรรคของท่านปรีดีในขณะนั้น)ถามจริงเถอะ ถ้าไม่มีท่านปรีดีและขบวนการเสรีไทย ชาติไทยจะเป็นยังไง ประชาธิปไตยของไทยจะเป็นยังไง ถ้าหากพวกคุณยังรักและนับถือในขบวนการเสรีไทยอยู่ ก็จงเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงซะ เพราะพวกเขาเหล่านั้น คือ ผู้สืบทอดเจตนารมย์ของขบวนการเสรีไทยตัวจริง หรือไม่ก็เปลี่ยนชื่อเว็บบอร์ดนี้เป็น " ขบวนการกดขี่ไทย " หรือไม่ก็ " ขบวนการปกป้องเผด็จการ " หรือไม่ก็ " บอร์ดพันธมาลแห่งที่สอง" ไปเสียเถิด อย่าเอาคำว่าเสรีไทยอันสูงส่งมาใช้ต้มตุ๋นคนอื่นเลย ถ้าแน่จริงอย่าลบ ถ้าลบถือว่าไม่ใช่คนไทย
Unnamable wrote:หลังจากอ่านกระทู้นี้ ทำให้เจ้าของกระทู้เป็นหนี้ผม 3 นาทีในชีวิตซึ่งผมเรียกกลับมาไม่ได้
slavik wrote:ขบวนการเสรีไทยน่ะ ท่านปรีดี พนมยงค์เป็นผู้ก่อตั้ง แต่ " พวกคุณ" กลับจัดทำเว็บบอร์ดนี้ขึ้นมาโดยไม่ชอบธรรม เอาชื่อเสรีไทยมาแปดเปื้อนอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะพวกคุณน่ะให้การสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์กับพวกเผด็จการทหารในการปล้นอำนาจจากประชาชน จำไม่ได้แล้วหรือไง ในอดีตนั้นพวกประชาธิปัตย์เคยสุมหัวกับพวกเผด็จการในการขับไล่ท่านปรีดีพนมยงค์จนท่านต้องไปตายอยู่ต่างประเทศ แล้วทำให้ขบวนการเสรีไทยต้องหลบเข้าป่าไป พวกมันถือสิทธิ์อะไรมาทำเช่นนั้น นี่ถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์น่ะ ท่านปรีดีก็คงไม่ต้องตาย แล้วประชาธิปไตยของไทยคงไม่เป็นแบบนี้หรอก รู้ไว้ส๊ะ ลองไปอ่านประวัติพรรคประชาธิปัตย์ดูสิแล้วพวกคุณจะรู้ ว่ากำลังสนับสนุนเผด็จการอยู่ ประชาธิปัตย์น่ะถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อทำลายขบวนการเสรีไทย(พรรคของท่านปรีดีในขณะนั้น)ถามจริงเถอะ ถ้าไม่มีท่านปรีดีและขบวนการเสรีไทย ชาติไทยจะเป็นยังไง ประชาธิปไตยของไทยจะเป็นยังไง ถ้าหากพวกคุณยังรักและนับถือในขบวนการเสรีไทยอยู่ ก็จงเข้าร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดงซะ เพราะพวกเขาเหล่านั้น คือ ผู้สืบทอดเจตนารมย์ของขบวนการเสรีไทยตัวจริง หรือไม่ก็เปลี่ยนชื่อเว็บบอร์ดนี้เป็น " ขบวนการกดขี่ไทย " หรือไม่ก็ " ขบวนการปกป้องเผด็จการ " หรือไม่ก็ " บอร์ดพันธมาลแห่งที่สอง" ไปเสียเถิด อย่าเอาคำว่าเสรีไทยอันสูงส่งมาใช้ต้มตุ๋นคนอื่นเลย ถ้าแน่จริงอย่าลบ ถ้าลบถือว่าไม่ใช่คนไทย
กบฏวังหลวง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
กบฏวังหลวง ชื่อเรียกการกบฏที่เกิดขึ้นในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 เกิดขึ้นโดยนายปรีดี พนมยงค์นำกองกำลังส่วนหนึ่งจากประเทศจีนร่วมกับคณะนายทหารเรือ และอดีตเสรีไทยกลุ่มหนึ่ง เรียกตัวเองว่า "ขบวนการประชาธิปไตย 26 กุมภาพันธ์" นำกำลังยึดพระบรมมหาราชวังและมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นกองบัญชาการ (จึงเป็นที่มาของชื่อกบฏในครั้งนี้) ในเวลาประมาณ 16.00 น. และเมื่อเวลา 21.00 น. ประกาศถอดถอน รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม และนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายนาย และได้ประกาศแต่งตั้ง นายดิเรก ชัยนาม ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแทน โดยที่นายดิเรกมิได้มีส่วนรู้เห็นอันใดกับการกบฏครั้งนี้ ในส่วนของนายปรีดีที่หลบหนีออกจากประเทศไปตั้งแต่การรัฐประหารในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ได้แอบเดินทางกลับมาโดยปลอมตัวเป็นทหารเรือและติดหนวดปลอมปะปนเข้ามาพร้อมกับกลุ่มกบฏ แต่มีผู้พบเห็นและจำได้
ซึ่งความจริงแล้ว ทางฝ่ายรัฐบาลก็รู้ตัวก่อนแล้ว เพราะ จอมพล ป.ก่อนหน้านั้นได้พูดทิ้งท้ายไว้เป็นนัยทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยว่า "เลือดไทยเท่านั้น ที่จะล้างเมืองไทยให้สะอาดได้" และได้ออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไว้ล่วงก่อนถึง 3 วันเกิดเหตุ
ในระยะแรก ฝ่ายกบฏดูเหมือนจะเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เพราะสามารถยึดสถานที่สำคัญและจุดยุทธศาสตร์ไว้ได้หลายจุด แต่ทว่าตกค่ำของคืนวันนั้นเอง ทหารฝ่ายรัฐบาลก็ตั้งตัวติดและสามารถยึดจุดยุทธศาสตร์กลับคืนมาได้ อีกทั้งกองกำลังทหารเรือฝ่ายสนับสนุนกบฏจากฐานทัพเรือสัตหีบก็ติดอยู่ที่ท่าน้ำบางปะกง เพราะน้ำลดขอดเกินกว่าปกติ แพขนานยนต์ไม่สามารถที่จะลำเลียงอาวุธและกำลังคนข้ามฟากไปได้ เมื่อน้ำขึ้นก็เป็นเวลาล่วงเข้ากลางคืน กองกำลังทั้งหมดมาถึงพระนครในเวลา 2 ยาม ถึงตอนนั้นฝ่ายกบฏก็เพลี่ยงพล้ำต่อรัฐบาลแล้ว
จุดที่มีการปะทะกันระหว่างทหารบกฝ่ายรัฐบาล และทหารเรือฝ่ายกบฏ เช่น ถนนวิทยุ ถนนพระราม 4 สาทร เป็นต้น มีการยิงกระสุนข้ามหลังคาบ้านผู้คนในละแวกนั้นไปมาเป็นตับ ๆ
พล.ต.สฤษดิ์ ธนะรัชต์ (จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ - ยศในขณะนั้น) ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการปราบปราม มีการสู้รบกันในเขตพระนครอย่างหนักหน่วง โดย พล.ต.สฤษดิ์เป็นผู้ยิงปืนจากรถถังทำลายประตูวิเศษไชยศรีของพระบรมมหาราชวังพังทลายลง จนในที่สุด เวลาเย็นของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ทั้ง 2 ฝ่ายก็หยุดยิง เมื่อรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้และปราบปรามฝ่ายกบฏได้สำเร็จ นายปรีดี พนมยงค์ ต้องหลบหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง และหลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน ได้มีการสังหารบุคคลสำคัญทางการเมืองลงหลายคน เช่น พล.ต.ต. บรรจงศักดิ์ ชีพเป็นสุข ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และ พ.ต. โผน อินทรทัต ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบและอดีตเสรีไทย รวมทั้งการสังหาร 4 อดีตรัฐมนตรีที่ถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ 13 คือนายทองอินทร์ ภูริพัฒน์ นายถวิล อุดล นายจำลอง ดาวเรือง และนายทองเปลว ชลภูมิ ซึ่งเป็นนักการเมืองในสายของนายปรีดี พนมยงค์ เป็นต้น
slavik wrote:เดี๋ยวผมจะเอารูปผมมาลง คุณจะได้รู้ว่าผมเป็นใครเลยจะดีมั๊ย
ประกาศคณะราษฎร ฉบับที่ ๑
ราษฎรทั้งหลาย
เมื่อกษัตริย์องค์นี้ได้ครองราชย์สมบัติสืบต่อจากพระเชษฐานั้น ในชั้นต้นราษฎรบางคนได้หวังกันว่ากษัตริย์องค์ใหม่นี้จะปกครองราษฎรให้ร่มเย็น แต่การณ์ก็หาได้เป็นไปตามที่คิดหวังกันไม่ กษัตริย์คงทรงอำนาจอยู่เหนือกฎหมายเดิม ทรงแต่งตั้งญาติวงศ์และคนสอพลอไร้คุณความรู้ให้ดำรงตำแหน่งที่สำคัญๆ ไม่ทรงฟังเสียงราษฎร ปล่อยให้ข้าราชการใช้อำนาจหน้าที่ในทางทุจริต มีการรับสินบนในการก่อสร้างและการซื้อของใช้ในราชการ หากำไรในการเปลี่ยนเงิน ผลาญเงินของประเทศ ยกพวกเจ้าขึ้นให้สิทธิพิเศษมากกว่าราษฎร กดขี่ข่มเหงราษฎร ปกครองโดยขาดหลักวิชา ปล่อยให้บ้านเมืองเป็นไปตามยถากรรม ดังที่จะเห็นได้จากความตกต่ำในทางเศรษฐกิจและความฝืดเคืองในการทำมาหากินซึ่งพวกราษฎรได้รู้กันอยู่โดยทั่วไปแล้ว รัฐบาลของกษัตริย์เหนือกฎหมายมิสามารถแก้ไขให้ฟื้นขึ้นได้
การที่แก้ไขไม่ได้ก็เพราะรัฐบาลของกษัตริย์มิได้ปกครองประเทศเพื่อราษฎรตามที่รัฐบาลอื่นๆ ได้กระทำกัน รัฐบาลของกษัตริย์ได้ถือเอาราษฎรเป็นทาส (ซึ่งเรียกว่าไพร่บ้าง ข้าบ้าง) เป็นสัตว์เดียรัจฉาน ไม่นึกว่าเป็นมนุษย์ เหตุฉะนั้น แทนที่จะช่วยราษฎร กลับพากันทำนาบนหลังราษฎร จะเห็นได้ว่า ภาษีอากรที่บีบคั้นเอาจากราษฎรนั้น กษัตริย์ได้หักเอาไว้ใช้ปีหนึ่งเป็นจำนวนหลายล้าน ส่วนราษฎรสิ กว่าจะหาได้แม้แต่เล็กน้อย เลือดตาแทบกระเด็น ถึงคราวเสียเงินราชการหรือภาษีใดๆ ถ้าไม่มีเงินรัฐบาลก็ยึดทรัพย์หรือใช้งานโยธา แต่พวกเจ้ากลับนอนกินกันเป็นสุข ไม่มีประเทศใดในโลกจะให้เงินเจ้ามากเช่นนี้ นอกจากพระเจ้าซาร์และพระเจ้าไกเซอร์เยอรมัน ซึ่งชนชาตินั้นก็ได้โค่นราชบัลลังก์ลงเสียแล้ว
รัฐบาลของกษัตริย์ได้ปกครองอย่างหลอกลวงไม่ซื่อตรงต่อราษฎร มีเป็นต้นว่าหลอกว่าจะบำรุงการทำมาหากินอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ครั้นคอยๆ ก็เหลวไป หาได้ทำจริงจังไม่ มิหนำซ้ำกล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กิน ว่าราษฎรยังมีเสียงทางการเมืองไม่ได้ เพราะราษฎรโง่ คำพูดของรัฐบาลเช่นนี้ใช้ไม่ได้ ถ้าราษฎรโง่ เจ้าก็โง่เพราะเป็นคนชาติเดียวกัน ที่ราษฎรรู้ไม่ถึงเจ้านั้นเป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่ เพราะเกรงว่าเมื่อราษฎรได้มีการศึกษา ก็จะรู้ความชั่วร้ายที่พวกเจ้าทำไว้ และคงจะไม่ยอมให้เจ้าทำนาบนหลังคนอีกต่อไป
ราษฎรทั้งหลายพึงรู้เถิดว่า ประเทศเรานี้เป็นของราษฎร ไม่ใช่ของกษัตริย์ตามที่เขาหลอกลวง บรรพบุรุษของราษฎรเป็นผู้ช่วยกันกู้ให้ประเทศเป็นอิสรภาพพ้นมือจากข้าศึก พวกเจ้ามีแต่ชุบมือเปิบและกวาดทรัพย์สมบัติเข้าไว้ตั้งหลายร้อยล้าน เงินเหล่านี้เอามาจากไหน? ก็เอามาจากราษฎรเพราะวิธีทำนาบนหลังคนนั้นเอง บ้านเมืองกำลังอัตคัดฝืดเคือง ชาวนาและพ่อแม่ทหารต้องทิ้งนา เพราะทำนาไม่ได้ผล รัฐบาลไม่บำรุง รัฐบาลไล่คนงานออกอย่างเกลื่อนกลาด นักเรียนที่เรียนสำเร็จแล้วและทหารที่ปลดกองหนุนแล้วก็ไม่มีงานทำ จะต้องอดอยากไปตามยถากรรม เหล่านี้เป็นผลของกษัตริย์เหนือกฎหมาย บีบคั้นข้าราชการชั้นผู้น้อย นายสิบ และเสมียน เมื่อให้ออกจากงานแล้วก็ไม่ให้เบี้ยบำนาญ ความจริงควรเอาเงินที่พวกเจ้ากวาดรวบรวมไว้มาจัดบำรุงบ้านเมืองให้คนมีงานทำ จึงจะสมควรที่สนองคุณราษฎรซึ่งได้เสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้ร่ำรวยมานาน แต่พวกเจ้าก็หาได้ทำอย่างใดไม่ คงสูบเลือดกันเรื่อยไป เงินเหลือเท่าไหร่ก็เอาไปฝากต่างประเทศ คอยเตรียมหนีเมื่อบ้านเมืองทรุดโทรม ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก การเหล่านี้ย่อมชั่วร้าย
เหตุฉะนั้น ราษฎร ข้าราชการ ทหาร และพลเรือน ที่รู้เท่าถึงการกระทำอันชั่วร้ายของรัฐบาลดังกล่าวแล้ว จึงรวมกำลังตั้งเป็นคณะราษฎรขึ้น และได้ยึดอำนาจของกษัตริย์ไว้ได้แล้ว คณะราษฎรเห็นว่าการที่จะแก้ความชั่วร้ายนี้ได้ก็โดยที่จะต้องจัดการปกครองโดยมีสภา จะได้ช่วยกันปรึกษาหารือหลายๆ ความคิดดีกว่าความคิดเดียว ส่วนผู้เป็นประมุขของประเทศนั้น คณะราษฎรไม่ประสงค์ทำการแย่งชิงราชสมบัติ ฉะนั้น จึงได้อัญเชิญให้กษัตริย์องค์นี้ดำรงตำแหน่งกษัตริย์ต่อไป แต่จะต้องอยู่ใต้กฎหมายธรรมนูญการปกครองแผ่นดิน จะทำอะไรโดยลำพังไม่ได้ นอกจากด้วยความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร คณะราษฎรได้แจ้งความประสงค์นี้ให้กษัตริย์ทราบแล้ว เวลานี้ยังอยู่ในความรับตอบ ถ้ากษัตริย์ตอบปฏิเสธหรือไม่ตอบภายในกำหนดโดยเห็นแก่ส่วนตนว่าจะถูกลดอำนาจลงมาก็จะชื่อว่าทรยศต่อชาติ และก็เป็นการจำเป็นที่ประเทศจะต้องมีการปกครองแบบอย่างประชาธิปไตย กล่าวคือ ประมุขของประเทศจะเป็นบุคคลสามัญซึ่งสภาผู้แทนราษฎรได้เลือกตั้งขึ้น อยู่ในตำแหน่งตามกำหนดเวลา ตามวิธีนี้ราษฎรพึงหวังเถิดว่าราษฎรจะได้รับความบำรุงอย่างดีที่สุด ทุกๆ คนจะมีงานทำ เพราะประเทศของเราเป็นประเทศที่อุดมอยู่แล้วตามสภาพ เมื่อเราได้ยึดเงินที่พวกเจ้ารวบรวมไว้จากการทำนาบนหลังคนตั้งหลายร้อยล้านมาบำรุงประเทศขึ้นแล้ว ประเทศจะต้องเฟื่องฟูขึ้นเป็นแม่นมั่น การปกครองซึ่งคณะราษฎรจะพึงกระทำก็คือ จำต้องวางโครงการอาศัยหลักวิชา ไม่ทำไปเหมือนคนตาบอด เช่นรัฐบาลที่มีกษัตริย์เหนือกฎหมายทำมาแล้ว เป็นหลักใหญ่ๆ ที่คณะราษฎรวางไว้ มีอยู่ว่า
๑.จะต้องรักษาความเป็นเอกราชทั้งหลาย เช่นเอกราชในทางการเมือง ในทางศาล ในทางเศรษฐกิจ ฯลฯ ของประเทศไว้ให้มั่นคง
๒.จะต้องรักษาความปลอดภัยภายในประเทศ ให้การประทุษร้ายต่อกันลดน้อยลงให้มาก
๓.ต้องบำรุงความสุขสมบูรณ์ของราษฎรในทางเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลใหม่จะจัดหางานให้ราษฎรทุกคนทำ จะวางโครงการเศรษฐกิจแห่งชาติ ไม่ปล่อยให้ราษฎรอดอยาก
๔.จะต้องให้ราษฎรมีสิทธิเสมอภาคกัน (ไม่ใช่พวกเจ้ามีสิทธิยิ่งกว่าราษฎรเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้)
๕.จะต้องให้ราษฎรได้มีเสรีภาพ มีความเป็นอิสระ เมื่อเสรีภาพนี้ไม่ขัดต่อหลัก ๔ ประการดังกล่าวข้างต้น
๖.จะต้องให้การศึกษาอย่างเต็มที่แก่ราษฎร
ราษฎรทั้งหลายจงพร้อมใจกันช่วยคณะราษฎรให้ทำกิจอันจะคงอยู่ชั่วดินฟ้านี้ให้สำเร็จ คณะราษฎรขอให้ทุกคนที่มิได้ร่วมมือเข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลกษัตริย์เหนือกฎหมายพึงตั้งตนอยู่ในความสงบและตั้งหน้าทำมาหากิน อย่าทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางต่อคณะราษฎร การที่ราษฎรช่วยคณะราษฎรนี้ เท่ากับราษฎรช่วยประเทศและช่วยตัวราษฎร บุตร หลาน เหลน ของตนเอง ประเทศจะมีความเป็นเอกราชอย่างพร้อมบริบูรณ์ ราษฎรจะได้รับความปลอดภัย ทุกคนจะต้องมีงานทำไม่ต้องอดตาย ทุกคนจะมีสิทธิเสมอกัน และมีเสรีภาพพ้นจากการเป็นไพร่ เป็นข้า เป็นทาสพวกเจ้า หมดสมัยที่เจ้าจะทำนาบนหลังราษฎร สิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนาคือ ความสุขความเจริญอย่างประเสริฐซึ่งเรียกเป็นศัพท์ว่า “ศรีอาริยะ” นั้น ก็จะพึงบังเกิดขึ้นแก่ราษฎรถ้วนหน้า
คณะราษฎร
๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๕