เพราะมันเกือบจะเป็น สาร RDX ล้วนเลย จากที่เป็นส่วนประกอบถึง 91%
ส่วนแก๊สน้ำตาทั้งชนิดยิง และชนิดขว้าง ที่ สตช.มีใช้ จะมี RDX เป็น
ส่วนประกอบเท่านั้น ไม่มีสารซีโฟร์
ส่วนแก๊สน้ำตาทั้งชนิดยิง และชนิดขว้าง ที่ สตช.มีใช้ จะมี RDX เป็น
ส่วนประกอบเท่านั้น ไม่มีสารซีโฟร์
มันน่าสงสัยตรงที่พยายามบอกว่าเจอ C4 ไม่เจอ RDX แล้วล่ะครับ ทั้ง ๆ ถ้าเป็น C4 จริงก็ต้องเจอ RDX เหมือนกับจะพยายามหลอกคนที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลยsaopao wrote:ผมยังคิดสงสัยไปอีกว่า ...ทางการทหาร ระเบิด c-4 นั้น สามารถนำมาใช้เป็นระเบิดชนิดขว้างได้มั๊ย
เท่าที่รู้ คงไม่มี
เพราะว่ามันต้องอาศัยเชื้อประทุ สายชนวน ตั้งเวลาระเบิด
ระเบิด c-4 ครึ่งกิโลสามารถระเบิดรถถังได้เลย นะครับ
การที่จะเอาระเบิด c-4 มาทำเป็นระเบิดปิงปอง ...คงไม่มีใครทำกัน
เพราะถึงจะขนาดเล็กเท่าลูกปิงปอง แต่อานุภาพคงทำให้ร่างกาย แหลกกระจายได้เลย
หวังว่าคงไม่มีใครคิดว่า น้องโบว์ผูกระเบิด c-4 ไว้ที่อก แล้วกดชนวนระเบิดนะครับ
และการที่จะโยนความผิดเป็น สาร c-4 นั้นก็คงเป้นเรื่องน่าสงสัยมากๆ ที่เดียว...... ??????
Solidus wrote:มันน่าสงสัยตรงที่พยายามบอกว่าเจอ C4 ไม่เจอ RDX แล้วล่ะครับ ทั้ง ๆ ถ้าเป็น C4 จริงก็ต้องเจอ RDX เหมือนกับจะพยายามหลอกคนที่ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย
jerasak wrote:savor wrote:ขอเอาข้อมูลจาก wiki ละกันครับ ง่ายดี
As with many plastic explosives, the explosive in C-4 is RDX (cyclonite or cyclotrimethylene trinitramine), which makes up around 91% of C-4 by weight. The plasticizer is diethylhexyl or dioctyl sebacate (5.3%) and the binder is usually polyisobutylene (2.1%).
Another plasticizer used is dioctyl adipate (DOA). A small amount of SAE 10 non-detergent motor oil (1.6%) is also added...
ก็คือ ระเบิดพลาสติกส่วนมากมันก็มี RDX ผสมกันทั้งนั้นล่ะครับ ดังนั้นการมี RDX จึงสรุปอะไรไม่ได้เลย ไม่ใช่อย่างที่หมอพรทิพย์สรุปไว้ครั้งแรกว่าที่ศพมี RDX ตรงกับแก๊สน้ำตา
ทีนี้ก็มาดูที่สารตัวอื่นกันล่ะ ซึ่งคิดว่าถ้ามีแถลงให้เป็นทางการก็คงบอกครับ ว่าเป็นตัวไหนกันแน่![]()
ปล. ขึ้นชื่อว่า ระเบิดทำเอง มันใส่ได้ทุกอย่างล่ะครับ
คุณ savor ตอบโดยมีความรู้ประสบการณ์ หรือตอบแบบเดาเอาเองครับ?
คุณ savor รู้ไหมว่า C4 จะระเบิดได้ต้องมีเชื้อประทุ ไม่ใช่แค่ใช้ความร้อน
หรือใช้แค่แรงกระแทกเวลาขว้างปา แบบดินปืนที่ใส่กันในระเบิดปิงปอง
*ถ้าเอา C4 มากรอกลงระเบิดปิงปองก็เท่ากับเปลืองเปล่าๆ ไม่เกิดอะไรเลย
จึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีการเอา C4 ไปใส่ในระเบิดปิงปอง*
จริงครับระเบิดทำเองใส่ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าใส่แล้วมันไม่มีผลกับการระเบิด
ก็ไม่รู้จะใ่ส่เข้าไปทำไมเหมือนกันนะครับ
แหล่งข่าวยังเปิดโปง เล่ห์เหลี่ยมกลโกงบ่อนบั้งไฟ ด้วยว่า บ่อนบั้งไฟจะเป็นที่รู้กันว่าจะมีบั้งไฟที่เรียกว่า บั้งไฟต้ม หมายถึง บั้งไฟที่มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของเหล่าเซียนพนันโดยเฉพาะเซียนไล่ ว่าหากแทงบั้งไฟของค่ายนี้จะไม่ผิดหวัง หลังจากแทงได้เงินตลอดวันนี้เลยมั่นใจสุดๆ ทุ่มหมดหน้าตักแทงบั้งไฟค่ายดังกล่าว เมื่อเจ้าของค่ายเห็นมีการได้เสียกันมาก โดยคนของค่ายบั้งไฟจะเป็นคนเขียนเวลาเอง หรือที่เรียกว่า เซียนหยั้ง เมื่อเห็นว่าได้ราคาดีแล้วก็จะมีวิธีการทำให้บั้งไฟขึ้นไม่ตรงเวลาที่เขียนไว้ เช่น การใช้ดินปืนที่ทำระเบิดซีโฟร์ระเบิดหัวออกเมื่อไปที่สูงระดับหนึ่ง ซึ่งวิธีการนั้นจะแนบเนียนมาก หากใครที่เพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ จะไม่รู้เลยว่านั่นคือบั้งไฟต้ม จนทำให้บรรดาเซียนไล่ทั้งหลายหมดเนื้อหมดตัวไปตามๆ กัน
เพราะผลสอบเสื้อผ้าน้องโบว์มีดินดำติดอยู่ด้วย
C-4 is very stable and insensitive to most physical shocks. Detonation can only be initiated by a combination of extreme heat and a shockwave, as when a detonator inserted into it is fired.
ส่วนเรื่องความแรง มันก็ต้องดูอีกว่า ปริมาณมันเท่าไหร่ ? จะมาบอกว่าแรงเกินไปมันไม่ได้ เพราะถ้าใส่น้อยๆเป็นหน่วยกรัม มันก็ไม่แรงล่ะ ถูกไหม ?
ฉะนั้นคนเจ็บอะไรเนี่ย ต้องไปตรวจหาสารอื่นด้วย ไม่ใช่ตรวจแต่สาร RDX เพียงอย่างเดียว เพราะสาร RDX มันจะมีกระจายไปหมด ทั้งคนเจ็บคนไม่เจ็บ เมื่อตรวจคนไหนก็จะพบสารตัวนี้มีทุกคน เนื่องจากสารระเบิดนี้จะหมดฤทธิ์ด้วยการกระจายขึ้นฟ้าเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ามันมาจากแก๊สน้ำตาของจีน
savor wrote:http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=2551076ฉะนั้นคนเจ็บอะไรเนี่ย ต้องไปตรวจหาสารอื่นด้วย ไม่ใช่ตรวจแต่สาร RDX เพียงอย่างเดียว เพราะสาร RDX มันจะมีกระจายไปหมด ทั้งคนเจ็บคนไม่เจ็บ เมื่อตรวจคนไหนก็จะพบสารตัวนี้มีทุกคน เนื่องจากสารระเบิดนี้จะหมดฤทธิ์ด้วยการกระจายขึ้นฟ้าเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ามันมาจากแก๊สน้ำตาของจีน
ผมคิดว่าคงเป็น binding agent หรือสารตัวอื่นล่ะ คงไม่ใช่ rdx และเค้าก็บอกแต่แรกตามข่าวแล้วว่า แค่ rdx มันไม่พอ
savor wrote:jerasak wrote:คุณ savor ตอบโดยมีความรู้ประสบการณ์ หรือตอบแบบเดาเอาเองครับ?
คุณ savor รู้ไหมว่า C4 จะระเบิดได้ต้องมีเชื้อประทุ ไม่ใช่แค่ใช้ความร้อน
หรือใช้แค่แรงกระแทกเวลาขว้างปา แบบดินปืนที่ใส่กันในระเบิดปิงปอง
*ถ้าเอา C4 มากรอกลงระเบิดปิงปองก็เท่ากับเปลืองเปล่าๆ ไม่เกิดอะไรเลย
จึงเป็นเหตุผลที่ไม่มีการเอา C4 ไปใส่ในระเบิดปิงปอง*
จริงครับระเบิดทำเองใส่ได้ทุกอย่าง แต่ถ้าใส่แล้วมันไม่มีผลกับการระเบิด
ก็ไม่รู้จะใ่ส่เข้าไปทำไมเหมือนกันนะครับ
ถ้าผมมีประสบการ์ทำระเบิด ผมซึ่งไม่ใช่ทหาร ไม่ใช่นักทำเหมือง ถึงตอนนี้คงไม่มีชีวิตอยู่แล้วล่ะครับ![]()
แต่ผมเคยสนใจเรื่องนี้สมัยเรียนครับ พวกอาวุธ ฯลฯ ประมาณนี้... ( หรือดูที่ผมตอบกระทู้ของ Sky ใน รดน. ได้ เพราะพิมพ์ไว้เยอะมาก คงขี้เกียจจะพิมพ์ซ้ำแล้ว )
C4 จะระเบิดได้ต้องมีทั้ง ความร้อนสูง และคลื่นระเบิด ( Shockwave ) ครับ
ถามว่า ดินดำที่ใช้ทำปิงปองใช้เป็นเชื้อปะทุได้ไหมครับ ? เพราะผลสอบเสื้อผ้าน้องโบว์มีดินดำติดอยู่ด้วย
หรือเอาง่ายๆบ้านเราพวกทำบั้งไฟโกงกันก็ใช้ C4 ผสมแล้วครับ...
http://news.sanook.com/region/region_271025.php
1ktip wrote:
ถ้าผลทดสอบเขียนสรุปมาแค่นี้แล้วเอามาสรุปผลคดีได้ มันก็หลักลอยไปแล้วครับ
ปกติการตรวจหา C4 ก็เน้นที่การตรวจ RDX อยู่แล้ว นี่ลงความเห็นเหมือน C4 กับ RDX ไม่เกี่ยวข้องกัน
มันส่อเจตนาบิดเบือนผลการตรวจชัดๆ
savor wrote:ที่แน่ๆผมว่า ถึงเวลาจะเอาระเบิดปิงปองที่ยึดได้จากพันธมิตรมาตรวจสอบกันโดยละเอียดแล้วครับ ( ถ้ามันยังระเบิดไม่หมดน่ะนะ )![]()
jerasak wrote:ผลการตรวจพิสูจน์ก็เสร็จมานานหลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งจะมีการส่ง FAX เมื่อ 2-3 วันมานี้เอง
ทั้งที่ควรมีการแจ้งผลไปนานแล้ว และผู้บังคับบัญชาก็ควรสั่งให้ตรวจสอบต่อไปอีกว่าเศษวัตถุ-
ที่มี C4 ติดอยู่ เป็นชิ้นส่วนของอะไร ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการสรุปสาเหตุการเสียชีวิต
แล้วก็กลับไปที่จุดเดิมคือตำรวจสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ทำอะไรให้ได้ผลสรุปจริงๆ สักที
savor wrote:http://webboard.news.sanook.com/forum/?topic=2551076ฉะนั้นคนเจ็บอะไรเนี่ย ต้องไปตรวจหาสารอื่นด้วย ไม่ใช่ตรวจแต่สาร RDX เพียงอย่างเดียว เพราะสาร RDX มันจะมีกระจายไปหมด ทั้งคนเจ็บคนไม่เจ็บ เมื่อตรวจคนไหนก็จะพบสารตัวนี้มีทุกคน เนื่องจากสารระเบิดนี้จะหมดฤทธิ์ด้วยการกระจายขึ้นฟ้าเพราะฉะนั้นอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่ามันมาจากแก๊สน้ำตาของจีน
ผมคิดว่าคงเป็น binding agent หรือสารตัวอื่นล่ะ คงไม่ใช่ rdx และเค้าก็บอกแต่แรกตามข่าวแล้วว่า แค่ rdx มันไม่พอ
-3- wrote:jerasak wrote:ผลการตรวจพิสูจน์ก็เสร็จมานานหลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งจะมีการส่ง FAX เมื่อ 2-3 วันมานี้เอง
ทั้งที่ควรมีการแจ้งผลไปนานแล้ว และผู้บังคับบัญชาก็ควรสั่งให้ตรวจสอบต่อไปอีกว่าเศษวัตถุ-
ที่มี C4 ติดอยู่ เป็นชิ้นส่วนของอะไร ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการสรุปสาเหตุการเสียชีวิต
แล้วก็กลับไปที่จุดเดิมคือตำรวจสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ทำอะไรให้ได้ผลสรุปจริงๆ สักที
บางทีอาจจะเป็นไปได้ว่า ตำรวจมีผลสรุปจริงๆ แล้วว่าน้องโบว์ตายเพราะอะไร แต่ไม่กล้าพูดความจริงออกไปมากกว่า
Bookmarks wrote:รบกวน คุณ Savor กับ คุณจีรศักดิ์ ช่วยบอกได้มั๊ยครับ สรุปแล้วคุณลุงขาขาดนั้น ขาขาดจริงหรือว่าหลอก เพราะทางคุณ Savor เอารูปมาลง คุณลุงนั้นขาขาดไปก่อนจะโดนแก๊สน้ำตา และมันจะไปประเด็นที่ว่า ถ้าขาดจริงเพราะโดนแก๊สน้ำตา ถ้าเป็นเช่นนั้น ทางคุณโบว์ก็น่าจะตายด้วยแก๊สน้ำตาได้เช่นกัน เพราะมันรุนแรงขนาดทำให้ขาขาดได้
ถูกต้องครับ เครื่องที่ใช้ตรวจสอบสารไม่ว่าจะเป้นnanase wrote:แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมกล่าวถึงกรณีที่ตำรวจแถลงยืนยัน การเสียชีวิตของนางสาวอังคณา ระดับปัญญาวุฒิ หรือ น้องโบว์ เกิดจากระเบิดซีโฟร์ ว่า ปัจจุบันยังไม่มีเครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ใดที่แสดงผลตรวจพิสูจน์ว่า เป็นซีโฟร์ได้ มีแต่เครื่องมือที่แสดงผลเป็นสารประกอบย่อยของระเบิด เช่น อาร์ดีเอ็กซ์ ซึ่งผลพิสูจน์ของตน ร่วมกับแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี พบสารอาร์ดีเอ็กซ์ ที่บาดแผลน้องโบว์ และยืนยันว่า น้องโบว์เสียชีวิตจากแก๊สน้ำตาจีน ทั้งลูกขว้างและลูกยิง ที่มีอำนาจทำลายล้างสูงกว่าแก๊สน้ำตาทั่วไป เนื่องจาก จุดชนวนด้วยระเบิดอาร์ดีเอ็กซ์ นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวและเสื้อผ้าน้องโบว์มี สารอาร์ดีเอ็กซ์
http://www.thairath.co.th/online.php?se ... ent=125275
......................................................................................................
ถ้าตรวจพบอาร์ดีเอ็กซ์ 90% ถึงจะเข้าเกณฑ์ว่าเป็น c4
ในกรณีข่าวที่ว่าตรวจเจอ C4 แต่ไม่เจอ RDX ก็คงจะกล่าวได้ว่าข้อมูลผิดพลาด
ส่วนในกรณีนี้ผมลองถามเพื่อนที่พอมีความรู้ทางนี้มันบอกว่า ในกรณีที่ตำรวจบอกว่าอาจจะเป็น C4 คงจะเพราะว่าได้ตรวจหาจากสะเก็ดสีดำ ที่ตกค้างไม่ใช่จากเสื้อผ้าหรือร่างกาย ถ้าวัตถุสะเก็ดสีดำนั้นเป็นสะเก็ดของวัตถุระเบิด ย่อมต้องปนเปื้อนสาร RDX เป็นจำนวนมาก อาจถึง 90% จึงสรุปได้ว่าเป็น C4
แต่ผมก็ว่าฟังหูไว้หูนะครับเพราะเพื่อนผมมันก็ไอ้เสื้อแดง![]()
![]()
![]()
![]()
jerasak wrote:ผมคิดว่าตั้งแต่ตำรวจมีผลตรวจพิสูจน์เมื่อ 10 ต.ค. 51 ถ้าตำรวจสงสัยว่ามี C4 ในระเบิดปิงปอง
ก็ควรนำระเบิดปิงปองไปตรวจสอบโดยละเอียดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ เพราะตำรวจก็มีอยู่ในมือ
ตามข่าวที่ว่ายึดเป็นของกลางมาได้เยอะแยะ
แต่ที่ตำรวจไม่ตรวจสอบประเด็นนี้ ผมคิดว่าเพราะตำรวจรู้ดีว่าไม่มีใครเอา C4 ไปใส่ระเบิดปิงปอง
ปัญหาที่ผมติดใจสงสัยก็คือ ในการตรวจพิสูจน์หลักฐานน่าจะหาต่อไปว่าเศษวัตถุที่มี C4 ติดอยู่
ระเบิดมาจากอะไรกันแน่ ไม่ใช่แค่ตรวจว่ามีสารระเบิดอะไรบ้างแล้วจบแค่นั้น![]()
ผลการตรวจพิสูจน์ก็เสร็จมานานหลายเดือนแล้ว แต่เพิ่งจะมีการส่ง FAX เมื่อ 2-3 วันมานี้เอง
ทั้งที่ควรมีการแจ้งผลไปนานแล้ว และผู้บังคับบัญชาก็ควรสั่งให้ตรวจสอบต่อไปอีกว่าเศษวัตถุ-
ที่มี C4 ติดอยู่ เป็นชิ้นส่วนของอะไร ซึ่งจะเป็นข้อมูลสำคัญในการสรุปสาเหตุการเสียชีวิต
แล้วก็กลับไปที่จุดเดิมคือตำรวจสามารถทำได้ทุกอย่าง แต่ก็ไม่ทำอะไรให้ได้ผลสรุปจริงๆ สักที
jerasak wrote:ขอเสริมความเห็นอีกว่า จากข่าวระเบิดประดิษฐ์เองที่ยึดได้จากพันธมิตร-
ถูกทำลายจากการระเิบิดภายในโรงเก็บกองพลาธิการและสรรพาวุธ สตช.
ตามข่าวตำรวจระบุว่า ได้ตรวจสอบวัตถุพยานดังกล่าวหมดแล้ว
*นั่นคือระเบิดปิงปองที่ยึดได้จากพันธมิตร ถูกตรวจแล้วก่อน 22 ธ.ค.51*
ถ้ามีการใส่ C4 ลงไปใน ระเบิดปิงปอง จริงตามจินตนาการ คุณ savor
ผมคิดว่าป่านนี้ตำรวจรีบนำมาโยงกับกรณีน้องโบว์แล้วครับ
...
ปัญหาตอนนี้คือ ถ้ามีการสรุปว่าเศษวัตถุที่ตรวจพบ C4 ตรงกับระเบิด-
ของพันธมิตร ที่ถูกระเบิดทำลายไปแล้วซึ่งมีรายงานว่าตรวจพบ C4
หากฝ่ายพันธมิตรสงสัย จะตรวจสอบซ้ำไม่ได้นะครับ..
ขออย่าให้มีอะไรแปลกๆ แบบที่ผมตั้งข้อสังเกตนี้เกิดขึ้นเลยนะครับ