**กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 8:23 pm

loginofu wrote:
soco wrote:ใครให้คนทุเรศ เลี้ยงข้าว

ป่านนี้ คงอ๊วกแทบแตกหมดแล้วมังครับ


ไม่นึกว่ามีคนเช่นนี้ในสังคมไทย


กรั๊กๆๆๆๆ
ก็ไม่รู้สิ ผมเป็นประเภทบริโภคนิยม กินข้าวกับใครก็กินแต่ของอร่อย
แม้ไปลำบากที่ไหน จะกินกันตาย มีแค่ขนมซองนึงแบ่งกันก็ไม่เห็นมีใครบ่น
แถมชวนว่าจะไปอีกไหม มีแต่คนบอกไปด้วยทุกที


ดีแล้วครับ กินของอร่อยก็นับว่าโชคดี

กินฟรียิ่งสบาย 55
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 8:32 pm

soco wrote:
loginofu wrote:
soco wrote:ใครให้คนทุเรศ เลี้ยงข้าว

ป่านนี้ คงอ๊วกแทบแตกหมดแล้วมังครับ


ไม่นึกว่ามีคนเช่นนี้ในสังคมไทย


กรั๊กๆๆๆๆ
ก็ไม่รู้สิ ผมเป็นประเภทบริโภคนิยม กินข้าวกับใครก็กินแต่ของอร่อย
แม้ไปลำบากที่ไหน จะกินกันตาย มีแค่ขนมซองนึงแบ่งกันก็ไม่เห็นมีใครบ่น
แถมชวนว่าจะไปอีกไหม มีแต่คนบอกไปด้วยทุกที


ดีแล้วครับ กินของอร่อยก็นับว่าโชคดี

กินฟรียิ่งสบาย 55


แน่นอน ผมดูแลพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ลูกน้อง และเพื่อนร่วมทางดีอยู่แล้ว
ไม่ต้องรอให้ใครบอกหรอกครับ
ที่สำคัญผมว่าผมได้สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าเงินทองไม่กี่บาทกลับมา
มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณไม่รู้จักก็ได้มั๊ง
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 8:39 pm

loginofu wrote:
soco wrote:
loginofu wrote:
soco wrote:ใครให้คนทุเรศ เลี้ยงข้าว

ป่านนี้ คงอ๊วกแทบแตกหมดแล้วมังครับ


ไม่นึกว่ามีคนเช่นนี้ในสังคมไทย


กรั๊กๆๆๆๆ
ก็ไม่รู้สิ ผมเป็นประเภทบริโภคนิยม กินข้าวกับใครก็กินแต่ของอร่อย
แม้ไปลำบากที่ไหน จะกินกันตาย มีแค่ขนมซองนึงแบ่งกันก็ไม่เห็นมีใครบ่น
แถมชวนว่าจะไปอีกไหม มีแต่คนบอกไปด้วยทุกที


ดีแล้วครับ กินของอร่อยก็นับว่าโชคดี

กินฟรียิ่งสบาย 55


แน่นอน ผมดูแลพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน ลูกน้อง และเพื่อนร่วมทางดีอยู่แล้ว
ไม่ต้องรอให้ใครบอกหรอกครับ
ที่สำคัญผมว่าผมได้สิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าเงินทองไม่กี่บาทกลับมา
มันอาจจะเป็นสิ่งที่คุณไม่รู้จักก็ได้มั๊ง



สุดยอดแล้วครับ

เลี้ยงคนเย๊อะเหมือนกันนะเรา 55
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 8:49 pm

soco wrote:สุดยอดแล้วครับ

เลี้ยงคนเย๊อะเหมือนกันนะเรา 55


555 ผมถือคติ "เลี้ยงคนที่สมควรเลี้ยง เตะคนที่สมควรเตะ"ครับ
พ่อแม่ พี่น้องนั่นคนที่มีกตัญญูสมควรทำอยู่แล้ว
เพื่อนดีๆก็พึ่งพากัน ลูกน้องก็ทำงานให้เรา
เพื่อนร่วมทางที่เดินบนถนนเส้นเดียวกัน หากคุณไม่เคยเจอคุณไม่รู้หรอกว่าแค่ยิ้มครั้งหนึ่งมันมีคุณค่าแค่ไหน

ส่วนคนที่ควรเตะ ก็อย่างเช่นเพื่อนเลวๆ พววกหน้าไหว้หลังหลอก
พวกปากหมาใจสัตว์ อย่างพวกพวกนิยมสีแดงนรกป่วนเมือง ฯลฯ

เลี้ยงก็ด้วยใจ(เตะก็ด้วยใจ)มันก็ง่ายๆ ไม่เปลือง ไม่ลำบากหรอกครับ
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 8:54 pm

loginofu wrote:
soco wrote:สุดยอดแล้วครับ

เลี้ยงคนเย๊อะเหมือนกันนะเรา 55


555 ผมถือคติ "เลี้ยงคนที่สมควรเลี้ยง เตะคนที่สมควรเตะ"ครับ
พ่อแม่ พี่น้องนั่นคนที่มีกตัญญูสมควรทำอยู่แล้ว
เพื่อนดีๆก็พึ่งพากัน ลูกน้องก็ทำงานให้เรา
เพื่อนร่วมทางที่เดินบนถนนเส้นเดียวกัน หากคุณไม่เคยเจอคุณไม่รู้หรอกว่าแค่ยิ้มครั้งหนึ่งมันมีคุณค่าแค่ไหน

ส่วนคนที่ควรเตะ ก็อย่างเช่นเพื่อนเลวๆ พววกหน้าไหว้หลังหลอก
พวกปากหมาใจสัตว์ อย่างพวกพวกนิยมสีแดงนรกป่วนเมือง ฯลฯ

เลี้ยงก็ด้วยใจ(เตะก็ด้วยใจ)มันก็ง่ายๆ ไม่เปลือง ไม่ลำบากหรอกครับ



ผมบอกให้นะครับว่า การที่คุณเติบโตมา ก็ด้วย บุพการีท่านเลี้ยงดูมา

และก็ไม่สมควรเอามาโพสหรอกหากเรา กตัญญูรู้คุณท่านบ้าง หากคิดว่าเลี้ยงทดแทน ผมว่าก็คงไม่ใช่

ผมว่าจะเป็นบาปเอานะครับ

เอาประเด็นใหม่มาคุยดีมั๊ยครับ
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 8:57 pm

เผลอตามคนชวนออกทะเลไปซะยาว แต่็ไม่ว่าหรอกนะ ดันกระทู้เนียนๆแบบนี้ผมชอบ

เอาเป็นว่ายังรออยู่นะครับว่าจะชี้แจง(ที่เหมือนไม่ได้ชี้แจง)อะไรอีก
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 9:05 pm

soco wrote:
loginofu wrote:
soco wrote:สุดยอดแล้วครับ

เลี้ยงคนเย๊อะเหมือนกันนะเรา 55


555 ผมถือคติ "เลี้ยงคนที่สมควรเลี้ยง เตะคนที่สมควรเตะ"ครับ
พ่อแม่ พี่น้องนั่นคนที่มีกตัญญูสมควรทำอยู่แล้ว
เพื่อนดีๆก็พึ่งพากัน ลูกน้องก็ทำงานให้เรา
เพื่อนร่วมทางที่เดินบนถนนเส้นเดียวกัน หากคุณไม่เคยเจอคุณไม่รู้หรอกว่าแค่ยิ้มครั้งหนึ่งมันมีคุณค่าแค่ไหน

ส่วนคนที่ควรเตะ ก็อย่างเช่นเพื่อนเลวๆ พววกหน้าไหว้หลังหลอก
พวกปากหมาใจสัตว์ อย่างพวกพวกนิยมสีแดงนรกป่วนเมือง ฯลฯ

เลี้ยงก็ด้วยใจ(เตะก็ด้วยใจ)มันก็ง่ายๆ ไม่เปลือง ไม่ลำบากหรอกครับ



ผมบอกให้นะครับว่า การที่คุณเติบโตมา ก็ด้วย บุพการีท่านเลี้ยงดูมา

และก็ไม่สมควรเอามาโพสหรอกหากเรา กตัญญูรู้คุณท่านบ้าง หากคิดว่าเลี้ยงทดแทน ผมว่าก็คงไม่ใช่

ผมว่าจะเป็นบาปเอานะครับ

เอาประเด็นใหม่มาคุยดีมั๊ยครับ


เอ๊า ผมกล่าวถึงท่านใทางที่ดี ผมเลี้ยงดูตอบแทนคุณท่าน
ผมไม่ได้บอกว่าผมเลี้ยงอย่างเลี้ยงหมูเลี้ยงหมาซักหน่อย
แล้วถ้าผมบอกว่า"ผมรักพ่อรักแม่"กลางเว็บบอร์ดมันเสียหายตรงไหนละครับ
หรือว่าคุณคิดอะไรต่ำๆ จะกล่าวหาบุพการีผม
ผมได้ได้เรียกคุณว่า"ไอ้่สัตว์"ซะเลย

ส่วนประเด็นอื่นน่ะ นอกจากกัดแล้วก็ไม่เห็นคุณจะชี้แจงอะไรนี่ครับ
ถ้าจะให้คุยกันจริงๆ มีอะไรก็ชี้แจงมาเลย ใครทำอะไรที่ไหนก็บอกมา
อ้ำๆอึ้งๆทำเป็นเก่งแต่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีเรื่องราวอะไรซักอย่าง
แอบกัด โพสอะไรทุเรสๆแบบที่คุณทำ แบบนี้จะให้คุยประเด็นไหน
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 9:06 pm

loginofu wrote:เผลอตามคนชวนออกทะเลไปซะยาว แต่็ไม่ว่าหรอกนะ ดันกระทู้เนียนๆแบบนี้ผมชอบ

เอาเป็นว่ายังรออยู่นะครับว่าจะชี้แจง(ที่เหมือนไม่ได้ชี้แจง)อะไรอีก



อ้าวมีเผลอด้วยเหรอครับ


กระทู้ดันไปก็เท่านั้น เพราะ จขกท. คาดว่าจะปิดได้ ก่อนสิ้นเดือนนี้

หากพวกเราหัดอ่าน ก็จะพอเข้าใจ ไม่ใช่มาละเมอเพ้อพกโหวกเหวกโวยวายว่า

เธอทำไมไม่โทรหาฉันบ้าง

ฉันเหงา เธอรู้มั๊ย



อ๊วกแทบแตก
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 9:10 pm

soco wrote:
loginofu wrote:เผลอตามคนชวนออกทะเลไปซะยาว แต่็ไม่ว่าหรอกนะ ดันกระทู้เนียนๆแบบนี้ผมชอบ

เอาเป็นว่ายังรออยู่นะครับว่าจะชี้แจง(ที่เหมือนไม่ได้ชี้แจง)อะไรอีก



อ้าวมีเผลอด้วยเหรอครับ


กระทู้ดันไปก็เท่านั้น เพราะ จขกท. คาดว่าจะปิดได้ ก่อนสิ้นเดือนนี้

หากพวกเราหัดอ่าน ก็จะพอเข้าใจ ไม่ใช่มาละเมอเพ้อพกโหวกเหวกโวยวายว่า

เธอทำไมไม่โทรหาฉันบ้าง

ฉันเหงา เธอรู้มั๊ย



อ๊วกแทบแตก


อ้อ จะดันว่ะ มีอะไรไหม สัตว์
จะไปโทรหาใครก็โทรไปสิ จะมาบ่นทำไม
เหี้ยเอ๊ย.....ทำปากหมากล่าวหาคนไม่มีหลักฐานอีกแล้ว
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 9:26 pm

loginofu wrote:
soco wrote:
loginofu wrote:
soco wrote:
loginofu wrote:เผลอตามคนชวนออกทะเลไปซะยาว แต่็ไม่ว่าหรอกนะ ดันกระทู้เนียนๆแบบนี้ผมชอบ

เอาเป็นว่ายังรออยู่นะครับว่าจะชี้แจง(ที่เหมือนไม่ได้ชี้แจง)อะไรอีก



อ้าวมีเผลอด้วยเหรอครับ


กระทู้ดันไปก็เท่านั้น เพราะ จขกท. คาดว่าจะปิดได้ ก่อนสิ้นเดือนนี้

หากพวกเราหัดอ่าน ก็จะพอเข้าใจ ไม่ใช่มาละเมอเพ้อพกโหวกเหวกโวยวายว่า

เธอทำไมไม่โทรหาฉันบ้าง

ฉันเหงา เธอรู้มั๊ย



อ๊วกแทบแตก


อ้อ จะดันว่ะ มีอะไรไหม สัตว์
จะไปโทรหาใครก็โทรไปสิ จะมาบ่นทำไม
เหี้ยเอ๊ย.....ทำปากหมากล่าวหาคนไม่มีหลักฐานอีกแล้ว



ใครกล่าวหาใครจ๊ะ หัดทำใจบ้าง จะได้ไม่ฉุนเฉียว งุ่นง่าน ปล่อยวางเห๊อะ ผมนาน ๆ มาที


แต่มาแล้ว ก็ถี่ ๆ แน่นอน


เออ ไม่ได้โมโหหรอก แต่น่ารำคาญ
จะว่ายังไงมรึงก็ระบุมาเลยสิ*** ทำตัวเเป็นกระจั๊วบ้าง แมงดาบ้างอยู่นั่นแหละ
เล่นเว็บการเมืองซะเปล่า ทำตัวยังกับเหี้ยหางแดง ไม่ได้พกสมองพกแต่หัวส่วนกลางตัวมาโพส

มาบ่อยๆให้กรูด่าอีกนะ ไอ้ปากหมาใจสัตว์




รำคาญเป็นด้วยเหรอจ๊ะ

แล้วรู้ป่าวว่า คนอื่นเค้ารำคาญพวก มารำพึงรำพัน ความหลังครั้งเก่า


ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นสาธารณะใด ๆ

ใจเย็นหน่อย ไม่รู้ก็หัดรอ หากอยากรู้


เราเป็นใครถึงไปคาดคั้นคนอื่น

55
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Thu Feb 26, 2009 9:32 pm

...................
Last edited by ดอกฟ้ากับหมาวัด on Thu Feb 26, 2009 9:35 pm, edited 2 times in total.
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 9:32 pm

soco wrote:รำคาญเป็นด้วยเหรอจ๊ะ

แล้วรู้ป่าวว่า คนอื่นเค้ารำคาญพวก มารำพึงรำพัน ความหลังครั้งเก่า


ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นสาธารณะใด ๆ

ใจเย็นหน่อย ไม่รู้ก็หัดรอ หากอยากรู้


เราเป็นใครถึงไปคาดคั้นคนอื่น

55


5555 กระทู้นี้มันก็ไหลไปเรื่อยของมัน เขาก็ทวงถามกันดีๆ
ทีมากัด แขวะ จนออกนอกเรื่องจนน่ารำคาญ
เดี๋ยวก็ตอแหล เดี๋ยวด่าคนอื่นว่ากะหรี่ ต่ำๆแบบนี้มันใครกันว่ะ
ที่น่ารำคาญจริงๆ กรูว่าเป็นไอ้หน้าตัวเมียอย่างมรึงมากกว่ามั๊ง...สัตว์
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 9:36 pm

loginofu wrote:
soco wrote:รำคาญเป็นด้วยเหรอจ๊ะ

แล้วรู้ป่าวว่า คนอื่นเค้ารำคาญพวก มารำพึงรำพัน ความหลังครั้งเก่า


ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับประเด็นสาธารณะใด ๆ

ใจเย็นหน่อย ไม่รู้ก็หัดรอ หากอยากรู้


เราเป็นใครถึงไปคาดคั้นคนอื่น

55


5555 กระทู้นี้มันก็ไหลไปเรื่อยของมัน เขาก็ทวงถามกันดีๆ
ทีมากัด แขวะ จนออกนอกเรื่องจนน่ารำคาญ
เดี๋ยวก็ตอแหล เดี๋ยวด่าคนอื่นว่ากะหรี่ ต่ำๆแบบนี้มันใครกันว่ะ
ที่น่ารำคาญจริงๆ กรูว่าเป็นไอ้หน้าตัวเมียอย่างมรึงมากกว่ามั๊ง...สัตว์



ผมไม่ได้ว่าใครหรอก แต่กะหรี่หน้าเว็บ มีจริง ตอนที่ผมโพส จำได้คล้าย ๆ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปล่อซื้อ ขายตัวทางเว็บ

หรือคุณคิดว่าใคร ?
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Thu Feb 26, 2009 9:37 pm

กราบเรียนท่านสมาชิกเสรีไทย ทุกท่านที่กรุณาติดตามอ่าน

ดอกฟ้าฯ ขอเรียนชี้แจงว่า กระทู้นี้ตั้งโดย คุณบอนนี่ **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

ตั้งมาเพื่อจุดประสงค์เพื่อปิด บัญชีหนังสือเล่มนี้ ตั้งแต่ 30 มกราคม 2009


จนกระทั่งวันนี้ ล่วงเลยมาเกือบเดือน มีคำถามมากมาย ที่ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีเพียงสองคนไม่ยอมมาชี้แจง

แต่กลับมีใครบางคนทำตัวเป็นนอมินี่ หยาบคาย มาป่วนชวนทะเลาะกับสมาชิกที่ตั้งใจจะติดตาม ตรวจสอบ

เพราะเห็นถึงความผิดปรกติ ในตัวเลข และจำนวนหนังสือที่ไม่ตรงกับความจริง

และเพื่อทำให้ คคห.ที่เป็นสาระตกไป โดยไม่ทราบเจตนาที่แท้จริง

โดยคิดว่าการป่วนเช่นนี้ จะทำให้สมาชิกเบื่อหน่ายและเลิกสนใจ

ทั้งนี้ดอกฟ้าฯ เชื่อว่า ยังมีสมาชิกที่อยากได้ความจริงยังมีอีกมาก


ดอกฟ้าฯ ไม่สนใจพวกกุ๊ย กักขฬะ ข้างถนนเลยค่ะ

ความจริงย่อมพิสูจน์ได้.....แล้ววันนั้นเราจะได้เห็นกัน


ดอกฟ้าฯ
Last edited by ดอกฟ้ากับหมาวัด on Thu Feb 26, 2009 9:43 pm, edited 1 time in total.
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 9:41 pm

soco wrote:ผมไม่ได้ว่าใครหรอก แต่กะหรี่หน้าเว็บ มีจริง ตอนที่ผมโพส จำได้คล้าย ๆ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปล่อซื้อ ขายตัวทางเว็บ

หรือคุณคิดว่าใคร ?


แล้วที่มรึงคิดว่ามรึงพูดเรื่องนี้ในเว็บ ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
แแล้วก็มีคนในเว็บเป็นผู้หญิงตั้งหลายคนที่โต้ตอบกะมรึงอยู่
มรึงจะเสือกโพสหาหอกอะไรว่ะ...สัตว์ แมร่งสันดาน
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 9:41 pm

ดอกฟ้ากับหมาวัด wrote:กราบเรียนท่านสมาชิกเสรีไทย ทุกท่านที่กรุณาติดตามอ่าน

ดอกฟ้าฯ ขอเรียนชี้แจงว่า กระทู้นี้ตั้งโดย คุณบอนนี่ **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

ตั้งมาเพื่อจุดประสงค์เพื่อปิด บัญชีหนังสือเล่มนี้ ตั้งแต่ 30 มกราคม 2009


จนกระทั่งวันนี้ ล่วงเลยมาเกือบเดือน มีคำถามมากมาย ที่ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีเพียงสองคนไม่ยอมมาชี้แจง

แต่กลับมีใครบางคนทำตัวเป็นนอมินี่ หยาบคาย มาป่วนชวนทะเลาะกับสมาชิกที่ตั้งใจจะติดตาม ตรวจสอบ

เพราะเห็นถึงความผิดปรกติ ในตัวเลข และจำนวนหนังสือที่ไม่ตรงกับความจริง

และเพื่อทำให้ คคห.ที่เป็นสาระตกไป โดยไม่ทราบเจตนาที่แท้จริง

โดยคิดว่าการป่วนเช่นนี้ จะทำให้สมาชิกเบื่อหน่ายและเลิกสนใจ

ทั้งนี้ดอกฟ้าฯ เชื่อว่า ยังมีสมาชิกที่อยากได้ความจริงยังมีอีกมาก


ดอกฟ้าฯ ไม่สนใจพวกกุ๊ย กักขละ ข้างถนนเลยค่ะ

ความจริงย่อมพิสูจน์ได้.....แล้ววันนั้นเราจะได้เห็นกัน


ดอกฟ้าฯ




เค้าบอกจะปิดบัญชี คาดว่า ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ไม่เคยอ่านเหรอครับ



ส่วนเรื่องอื่น ผมว่าไปโทรคุยกันเองดีกว่า
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 9:43 pm

loginofu wrote:
soco wrote:ผมไม่ได้ว่าใครหรอก แต่กะหรี่หน้าเว็บ มีจริง ตอนที่ผมโพส จำได้คล้าย ๆ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปล่อซื้อ ขายตัวทางเว็บ

หรือคุณคิดว่าใคร ?


แล้วที่มรึงคิดว่ามรึงพูดเรื่องนี้ในเว็บ ทั้งๆที่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย
แแล้วก็มีคนในเว็บเป็นผู้หญิงตั้งหลายคนที่โต้ตอบกะมรึงอยู่
มรึงจะเสือกโพสหาหอกอะไรว่ะ...สัตว์ แมร่งสันดาน



อ้าวคิดเป็นด้วยเหรอครับ

ใครโพสไรก็เป็นสิทธิมิใช่หรือ หากเราไม่กล่าวหาใคร ?


หรือว่า ;)

คุณรู้ว่ามีจริง
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby loginofu » Thu Feb 26, 2009 9:46 pm

soco wrote:เค้าบอกจะปิดบัญชี คาดว่า ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ไม่เคยอ่านเหรอครับ

ส่วนเรื่องอื่น ผมว่าไปโทรคุยกันเองดีกว่า


ก็โควตมาเลยสิ กระทู้ไหน หน้าไหน ข้อความเขียนว่ายังไง
ชอบพูดลอยๆไม่มีหลักฐานเรื่อยเลย

ทำอะไรต้องมีหลักฐาน หัดไว้บ้างสิครับ
http://www.prachathon.org/forum/index.php
ทางเข้าบอร์ดสำรอง http://siamseri.orgfree.com/
ประชาทนธิปไตย : ทนได้ก็ทนไป
loginofu
 
Posts: 10316
Joined: Mon Oct 13, 2008 3:22 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Thu Feb 26, 2009 9:49 pm

soco wrote:
ดอกฟ้ากับหมาวัด wrote:กราบเรียนท่านสมาชิกเสรีไทย ทุกท่านที่กรุณาติดตามอ่าน

ดอกฟ้าฯ ขอเรียนชี้แจงว่า กระทู้นี้ตั้งโดย คุณบอนนี่ **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

ตั้งมาเพื่อจุดประสงค์เพื่อปิด บัญชีหนังสือเล่มนี้ ตั้งแต่ 30 มกราคม 2009


จนกระทั่งวันนี้ ล่วงเลยมาเกือบเดือน มีคำถามมากมาย ที่ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มีเพียงสองคนไม่ยอมมาชี้แจง

แต่กลับมีใครบางคนทำตัวเป็นนอมินี่ หยาบคาย มาป่วนชวนทะเลาะกับสมาชิกที่ตั้งใจจะติดตาม ตรวจสอบ

เพราะเห็นถึงความผิดปรกติ ในตัวเลข และจำนวนหนังสือที่ไม่ตรงกับความจริง

และเพื่อทำให้ คคห.ที่เป็นสาระตกไป โดยไม่ทราบเจตนาที่แท้จริง

โดยคิดว่าการป่วนเช่นนี้ จะทำให้สมาชิกเบื่อหน่ายและเลิกสนใจ

ทั้งนี้ดอกฟ้าฯ เชื่อว่า ยังมีสมาชิกที่อยากได้ความจริงยังมีอีกมาก


ดอกฟ้าฯ ไม่สนใจพวกกุ๊ย กักขละ ข้างถนนเลยค่ะ

ความจริงย่อมพิสูจน์ได้.....แล้ววันนั้นเราจะได้เห็นกัน


ดอกฟ้าฯ




เค้าบอกจะปิดบัญชี คาดว่า ไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ไม่เคยอ่านเหรอครับ



ส่วนเรื่องอื่น ผมว่าไปโทรคุยกันเองดีกว่า





เห็นผลัดมาหลายครั้งแล้ว...เลยสงสัย

ว่าตะว่าคุณได้รับมอบอำนาจจากบอนนี่ หรือใคร มาตอบแทนเหรอคะ

ถ้าใช่ให้เจ้าตัวมายืนยัน ในกระทู้นี้....ถ้าไม่ใช่ถือว่า"เสรือก"ผิดที่ผิดทางค่ะ
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ดอกฟ้ากับหมาวัด » Thu Feb 26, 2009 10:07 pm

คุณโซโก้..ถ้าคุณยังเหลือความเป็นสุภาพบุรุษแห่งราชดำเนินในอดีตนะ

ขอร้องให้คุณอยากด่าหรือป่วนใคร....กรุณาไปตั้งกระทู้ใหม่

เพราะกระทู้นี้...เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" ที่ยังปิดไม่ลง

เพราะหนังสือเล่มนี้..เกิดจากทุนรอนของเพื่อนสมาชิกที่ร่วมมือ ร่วมใจกันบริจาค


หากคุณไม่อาย...ฉันอายแทนนะ

คนเค้ามองออก....กรรมคือการกระทำเป็นเครื่องส่อเจตนา
มวลมาร แม้นหมูหมา มองเมิน
จาบจ้วง คอยล่วงเกิน ดั่งไพร่
โดดเดียว ไร้ที่พัก พำนักใจ
หางด้วน ไร้ที่พัก พำนักพิง


User avatar
ดอกฟ้ากับหมาวัด
 
Posts: 1817
Joined: Mon Oct 13, 2008 2:56 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby soco » Thu Feb 26, 2009 10:11 pm

ดอกฟ้ากับหมาวัด wrote:คุณโซโก้..ถ้าคุณยังเหลือความเป็นสุภาพบุรุษแห่งราชดำเนินในอดีตนะ

ขอร้องให้คุณอยากด่าหรือป่วนใคร....กรุณาไปตั้งกระทู้ใหม่

เพราะกระทู้นี้...เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" ที่ยังปิดไม่ลง

เพราะหนังสือเล่มนี้..เกิดจากทุนรอนของเพื่อนสมาชิกที่ร่วมมือ ร่วมใจกันบริจาค


หากคุณไม่อาย...ฉันอายแทนนะ

คนเค้ามองออก....กรรมคือการกระทำเป็นเครื่องส่อเจตนา



อย่าไปลำเลิกอะไรให้ยาวเลยครับ

หากคุณไม่อาย ผมก็อายแทน

ไปตั้งกระทู้ใหม่ผมก็ไม่ว่าแล้วนะ

ไปเว็บคุณ ก็ไปว่ากันเองซิครับ

กระทู้นี้ปิดบัญชี คนอื่นไม่เกียวก็ถอยไป หากมาละเมอแถวนี้ ผมก็ต้องมาอีกละ
.
.
.
.
.
User avatar
soco
 
Posts: 4816
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:03 pm

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby ridkun » Thu Feb 26, 2009 10:13 pm

ขอล็อกไว้ จนกว่าจะมีการปิดจริงๆ เรียบร้อยแล้วละกันครับ

== ข้อความถูกระงับโดยผู้ดูแล ==

ridkun
Site Admin
 
Posts: 1815
Joined: Mon Oct 13, 2008 12:08 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby aiwen^mei » Sat Feb 28, 2009 7:56 am

1. สรุปเรื่องบัญชีรายรับ-รายจ่าย สิ้นสุด ณ วันนี้ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

Image

Image

Image

Image

อนึ่ง เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในฐานะผู้รับผิดชอบการส่งมอบหนังสือจำนวน ๒๐ เล่มเพื่อจำหน่ายที่หาดใหญ่ผ่านคุณอำพรางฯ ส่วนตัวจึงขอชำระค่าหนังสือจำนวน 3,180.- บาท

และยอดเงินที่เพิ่มขึ้นนี้ ได้นำไปบริจาคให้กับมูลนิธิเด็กจำนวน 3,333.- บาท นะคะ

ขอสมาชิกทุกท่านที่ให้การสนับสนุนโครงการนี้ตั้งแต่ต้นจะได้รับผลบุญร่วมกันค่ะ สาธุ
User avatar
aiwen^mei
 
Posts: 440
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:37 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby aiwen^mei » Sat Feb 28, 2009 8:01 am

2. สรุปบัญชีคงคลังหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" สิ้นสุด ณ วันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒

Image

หมายเหตุ รายละเอียดกรุณาติดตามได้ในความเห็นต่อไปค่ะ
User avatar
aiwen^mei
 
Posts: 440
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:37 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby aiwen^mei » Sat Feb 28, 2009 8:10 am

ข้อมูลอ้างอิง ๑

ภาพสแกนสมุดบัญชีสามหน้าคู่แรก

Image

Image

Image

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg202276 #266

และวางจำหน่ายที่หาดใหญ่ ตามนี้ค่ะ

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg205301

ใบเสนอราคา สำหรับค่าอาร์ตเวิร์กและค่าจัดพิมพ์หนังสือ

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg211359

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg211362

ใบเสร็จรับเงิน จากคุณอ้อ หัวหน้าทีมงานฝ่ายศิลป์


http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg211911

เอกสารแจ้งยอดเงินจากศูนย์หนังสือจุฬาฯ ครั้งที่ ๑
Image

ภาพสแกนสมุดบัญชีหน้า 4
Image

หมายเหตุ : มาเพิ่มภาพสแกนหน้าสมุดบัญชีสามหน้าคู่แรก และแก้ไขลิงก์ที่อ้างอิงให้ถูกต้อง ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2552
Last edited by aiwen^mei on Sun May 10, 2009 2:47 am, edited 4 times in total.
User avatar
aiwen^mei
 
Posts: 440
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:37 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby aiwen^mei » Sat Feb 28, 2009 8:14 am

การบริจาคเงินเพื่อเด็ก ๆ ด้อยโอกาส

--ติดตามรายละเอียดของการบริจาคสองครั้งแรกได้ที่กระทู้เก่าต่อไปนี้

ครั้งที่ ๑ http://oldforum.serithai.net/index.php?topic=16551.0

ครั้งที่ ๒ http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... 381.0.html

หมายเหตุ : มาเพิ่มเติมเพื่อโพสต์ภาพสแกนเอกสารที่ได้รับเพื่อแสดงความขอบคุณจากมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย และมูลนิธิเด็กโรคหัวใจในพระอุปถัมภ์ของพระพี่นาง ซึ่งเป็นการบริจาคครั้งที่ ๓ ณ วันที่ 10 พฤษภาคม 2552

Image

Image

Image

Image
Last edited by aiwen^mei on Sun May 10, 2009 1:57 am, edited 3 times in total.
User avatar
aiwen^mei
 
Posts: 440
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:37 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby aiwen^mei » Sat Feb 28, 2009 8:18 am

ข้อมูลอ้างอิง ๒

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg216598 -- ความเห็นที่ 63

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg218625 -- ความเห็นที่ 96

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg223012 -- ความเห็นที่ 142

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg223238 -- ความเห็นที่ 145

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg226492 -- ความเห็นที่ 151

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg232722 -- ความเห็นที่ 163

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg233903 -- ความเห็นที่ 168

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... 527.0.html

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg296365 -- # 39

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg321137 -- # 49

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg318859 -- # 27

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg319038 -- # 34

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg321111 -- # 52

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

Image

=======================================================================

ขอสรุปก่อนค่ะว่า เงินจำนวน 1,303.- บาท ย้ำว่า หนึ่งพันสามร้อยสามบาทถ้วนนั้น ที่คุณด.คาดคั้นถามจนละเมอเกินไปสามบาทนั้น เป็นเงินสดที่เธอเองต้องคืนให้เม่ยเท่านั้น โดยไม่ต้องนำเข้าบัญชี เพราะที่มาที่ไปได้บอกกล่าวไว้แล้วส่วนหนึ่งจากหลังไมค์ที่เม่ยส่งถึงเธอ และเธออุตส่าห์ไปหยิบยกเอามาอ้างอิงไว้แล้ว แต่อ่านแล้วไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้ว่าแกล้งโง่หรือเปล่า ก็เลยเพ้อว่า เงินจำนวนนี้เม่ยต้องเอาเข้าบัญชี พอมองหาไม่เจอ ก็โวยวายกราดเกรี้ยวขึ้นมาซะงั้น

และผ่านมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๐ ทำไมจึงเพิ่งมาสงสัย ถ้าสงสัยแล้วจ่ายคืนมาทำไม ทำไมไม่ถามให้ชัดเจนทางหลังไมค์ก่อน

จากหลังไมค์ของเม่ยที่ส่งถึงเธอก็บอกไว้ชัดเจนแล้วว่า

มาแจ้งเรื่องขอรับหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" และ "เงินคงค้าง + บัตรเอทีเอ็ม" ดังนี้ค่ะ

1. หนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน" ขอทราบจำนวนหนังสือที่จะส่งมอบคืนว่ากี่เล่มด้วยค่ะ

2. เงินคงค้าง เป็นเงินทั้งสิ้น 1,303 บาท ขอรับเป็นเงินสดค่ะ

จากเงินค่าหนังสือที่ได้รับในงานปาร์ตี้เปิดตัวหนังสือที่เม่ยนำเข้าบัญชีไปก่อน

ทั้งสิ้น 4 รายการ ดังต่อไปนี้

1. เงินค่าหนังสือ 1,590 บาท ของคุณพรรณชมพู

2. เงินค่าหนังสือ 1,590 บาท ของคุณ login not found

3. เงินค่าหนังสือ 500 บาท ของคุณ Augustman

4. เงินค่าหนังสือ 160 บาท ของคุณ Ja-ded หักค่าเช่าโฮสต์ 1,737 บาท

และค่าพิมพ์ที่คั่นหนังสือ 800 บาท ที่พี่ดอกฟ้าฯ จ่ายไปก่อน

3. และบัตรเอทีเอ็ม ที่ทำควบคู่กับการเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับกิจกรรมครบรอบปี


สรุป

a. เงินที่เม่ยนำเข้าบัญชีไปก่อนแล้ว = 1,590 + 1,590 + 500 + 160 -- เป็นเงินค่าหนังสือที่สมาชิกข้างต้นในรายการที่ 1-4 จ่ายเงินสดให้กับเธอและทีมของเธอไว้

b. เงินที่คุณด.เธอจ่ายให้ไปก่อน = 1,737 + 800

เมื่อนำรายการ b.ลบออกจากรายการ a. ก็จะคงเหลือเงินจำนวน 1,303.- บาทซึ่งเธอต้องจ่ายคืนเม่ย โดยที่เม่ยขอรับเป็นเงินสด แล้วทำไมต้องเอาเข้าบัญชีอีกเพราะเม่ยเอาเงินส่วนตัวจากรายการตั้งต้นที่สมาชิกจ่ายค่าหนังสือให้กับเธอในวันงานเปิดตัวหนังสือที่ร้านฟู้ดดินี่เข้าบัญชีไปก่อนแล้ว โดยรวมอยู่ในยอดเงินจำนวน 5,931.- บาทนั่นเอง

เธอจะมาทำเป็นหลง ๆ ลืม ๆ แล้วกล่าวหาคนอื่นชุ่ย ๆ อย่างนี้ได้อย่างไร

ความจริง เงินจำนวนนี้เม่ยเอาเข้าบัญชีตั้งแต่วันที่ 17 กรกฏาคม 2550
แต่กว่าจะไปขอคืนจากเธอซึ่งหักกลบลบหนี้กันแล้วก็เหลือ 1,303.- บาทที่เธอต้องคืนเม่ยมา
ก็อีกประมาณสามเดือนให้หลังด้วยซ้ำไป


เธอคงหลงลืมป้ำเป๋อเอ๋อจนลืมไปว่า มีสมาชิกท่านใดบ้างที่จ่ายเงินค่าหนังสือไว้ให้กับเธอและทีมน้อง ๆ ของเธอแต่ยังไม่ได้ส่งมอบให้เม่ยในวันงาน ซึ่งก็ไม่ได้ว่าอะไรกัน เพราะตามเคลียร์กันทีหลังได้

กลับกลายเป็นเหตุให้เธอมามั่วกล่าวหาว่าโกง พอถูกไล่จี้บี้หนักเข้า ก็แถว่า ไม่ได้กล่าวหาว่าโกง

:evil: :twisted: :evil: :evil:

Image

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg199261 #104

Image

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg206005

Image

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg199483 # 125

จำนวนเงิน 1,737.- บาทในบัญชีของคุณริดกุนนั้น เม่ยฝากให้เธอนำเงินเข้าบัญชีให้ก่อน จึงได้นำมาหักออกตอนขอรับเงินคงค้างคืน

และการบริจาคเงินของคุณ ********Q******** มีรายละเอียดเพิ่มเติม ดังนี้

คุณคิวแกก็มาขอให้ถอนเงินออกจำนวน 318 บาทจากเดิมที่แกโอนเข้าบัญชีไปก่อนแล้ว 1,400.-บาท
และขอให้ช่วยนำเงินจำนวน 318.- บาทนี้ไปฝากเข้าบัญชีของคุณริดกุนแทน
อย่างนี้ก็มีด้วย แต่ก็ตามใจแก :mrgreen:

Image

http://oldforum.serithai.net/index.php/ ... #msg203258 #434

ใครอยากทราบว่า โอนเข้าบัญชีคุณริดกุนจำนวน 318.- บาทหรือไม่ ก็ขอเชิญตรวจสอบดูได้

หมายเหตุ : มาเพิ่มข้อมูลเรื่องจำนวนเงิน 1,303.- บาทว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ใช่เป็นเช่นที่ถูกกล่าวหาปรักปรำหรือไม่ และข้อมูลเพิ่มเติมการบริจาคเงินของคุณ ********Q******** ณ วันที่10 พฤษภาคม 2552
Last edited by aiwen^mei on Sun May 10, 2009 3:21 am, edited 14 times in total.
User avatar
aiwen^mei
 
Posts: 440
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:37 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby *bonny » Sat Feb 28, 2009 8:20 am

สวัสดีครับ..

โอ้โฮ..
เอากันใหญ่ ละเลงกันจนเละเทะ พูดกันเป็นตุเป็นตะ โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่เกิดกับคนอื่น
เป็นธรรมดาของเว็บบอร์ด กล่าวหาได้ง่ายๆ ไม่เสียตังค์ หมิ่นประมาทคนไม่ติดคุก อย่างมากตายคาล็อกอิน จบแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่ไปเรื่อยๆ ได้ ไม่รู้จบ

ลืมจิตสำนึกอันดีงามของการทำความดีกันไปหมด มุ่งหมายที่จะเอาชนะคะคานกัน ล้างแค้นในเรื่องส่วนตัวกันอย่างเดียว

แทนที่ผมจะมากล่าวปิดกระทู้หลังจากทำงานเสร็จด้วยคำขอบคุณทุกท่าน กลายเป็นต้องมาแก้ข้อกล่าวหาไปเสียฉิบ!!

ธรรมสูงสุดในพุทธศาสนา คือ อริยมรรค มี 8 ข้อ ข้อแรกสำคัญที่สุด คือ สัมมาทิฎฐิ คือ คิดชอบ เข้าใจอย่างถูกต้อง
ข้อแรกนี้สำคัญที่สุด เพราะถ้าเริ่มต้นก็คิดไม่ชอบ เข้าใจผิดแต่แรกแล้ว จะดำริชอบ ปฏิบัติชอบ เจรจาชอบ ในข้อต่อๆ มา ......จนถึง..จิตตั้งมั่นอยู่ในสมาธิอันชอบได้อย่างไร

เท่าที่อ่านๆ ดู เหตุแห่งการไม่เกิดสัมมาทิฎฐิในคนเหล่านี้ เป็นเพราะจิตใจที่ฟุ้งซ่านมาก่อน โดนสังโยชน์เกาะกุมจนไม่อาจขจัดนิวรณ์อันเป็นบ่อเกิดแห่งกิเลสได้

เมื่อจิตใจมืดมัวแล้ว ตาก็ย่อมมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งดีงามที่โครงการจัดทำหนังสือครบรอบหนึ่งปีกระทำไป การพยายามทำลายสิ่งดีงามที่คนทั้งหลายทั้งปวงในที่นี้ร่วมกันสร้างขึ้นมาถือเป็นบาปเป็นกรรมที่จะต้องติดตามเขาเหล่านั้นไปตลอดอยู่แล้ว แต่นี่ยังพยายามสร้างเรื่องราวทำร้ายผู้ที่เคยเป็นมิตรสหาย เพื่อนร่วมงานให้วอดวายไปกับมิจฉาทิฎฐิด้วยเนี่ย ถือเป็นบาปมหันต์ที่จะส่งผลต่อชีวิตและความสุขของคนเหล่านี้ในภายภาคหน้า

ลองมองดูตัวเองและคนรอบข้างในครอบครัวที่ต้องสัมผัสกับพวกคุณอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันสิครับ แล้วลองหาเหตุผลทางพุทธศาสตร์อธิบายว่า คุณมีความสุข ความเจริญในชีวิตดีอยู่หรือ พวกเขามีความสุข ความเจริญในการประกอบกิจกรรมร่วมกับคุณดีอยู่หรือ?

การหลุดพ้นจากบ่วงกรรมที่ตนเองก่อขึ้น มีทางเดียว คือ กลับไปที่มรรคข้อแรก เริ่มต้นด้วยการทำให้เป็น สัมมาทิฎฐิ ให้ได้ก่อน ถ้าทำได้ดี เข้าใจได้อย่างถ่องแท้ก็จะมองเห็น (ในจิต ธรรมที่ผู้อื่นปฏิบัติสามารถมองได้ด้วยจิตตั้งมั่นของคุณเอง) สิ่งที่ผมได้ก่อร่างสร้างโครงการนี้ขึ้นมาจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายของการเก็บเกี่ยว มันเป็นโครงการที่มิชอบ ล้มเหลว แสวงหาผลประโยชน์ จริงเช่นนั้นหรือ?

ฝากไปคิดและไตร่ตรองนะครับ ถ้าคิดว่า ไม่จำเป็น ไร้สาระก็ไม่เป็นไร

เอาล่ะครับ..
ถึงเวลาต้องชี้แจงทุกเรื่องราวแล้ว และให้ถือคำชี้แจงนี้ประกอบหลักฐานที่น้องเม่ยนำมาแปะด้วยนะครับ

20 คำถามกับ*bonny

1) ทำไมถึงไม่เข้ามาชี้แจงก่อนหน้านี้ ปล่อยให้กระทู้เละเป็นโจ๊กอย่างนี้ล่ะ?

ต้องถามกลับไปว่า ทำไมผมต้องมาไล่ชี้แจงทุกประเด็นที่พวกเขาสงสัยต่างหาก ปุจฉาที่เป็นมายาทิฎฐิ ไม่อาจวิสัชนาด้วยสัมมาวาจา ฉันใดก็ฉันนั้น..
กระทู้นี้ความจริงไม่ควรมีความยืดเยื้อเกิน 3 หน้าหรอก แต่ที่มันบานทะโร่เช่นนี้ ให้ท่านทั้งหลายคลิกกลับไปดูว่า เกิดจากการพยายามทำลายกระทู้ด้วยความเห็นที่โปรยมาครั้งละ 2 – 3 – 4 ความเห็น ทั้งๆ ที่สามารถรวมกันเป็นความเห็นเดียวได้ แต่ต้องการละเลงให้มันเปรอะ มันก็เลยกลายเป็น 8 หน้าโดยไม่จำเป็น

ผมมีกำหนดเวลาทำงานให้จบภายในเดือนกุมภาพันธ์ ต้องถามกลับไปว่า ถ้าพ้นกำหนดนัด ผมพลาดค่อยมาอัดกันดีกว่าไหม ระหว่างนั้น ผมได้เข้ามาตอบแล้วครั้งหนึ่ง แต่เห็นทีท่าของพวกที่ตั้งคำถามต้องการพาลเอาเรื่องมากกว่าถามอย่างสร้างสรรค์ ต่อให้ตอบจนปากฉีกถึงรูหู ก็คงไม่เป็นที่พอใจหรอกครับ เหมือนยืนพูดกับกำแพงเมืองจีนยังไงยังงั้น
เรามีหน้าที่สะสางงาน ต้องทำให้แล้วเสร็จ ใช้ผลของงานที่ทำแทนคำตอบน่าจะดีกว่า พยานหลักฐานที่นำมาแปะจะสามารถพูดแทนเราได้ดีที่สุดว่า เราทำอะไรไปแล้ว ได้ผลอย่างไร และผมก็ได้ห้ามน้องเม่ยไม่ให้เข้ามาชี้แจงใดๆ ในระหว่างที่งานยังไม่เสร็จด้วย ขอให้ใช้ขันติธรรมเข้าต่อสู้จะดีกว่า (แต่หลายครั้งที่น้องเขาขันแตกไปซะก่อน)

แล้วเมื่อผมและน้องเม่ยเอาหลักฐานต่างๆ มาแปะ ไอ้ที่กล่าวหากันเป็นตุเป็นตะ จะมีใครสำนึกไหมครับว่า ทำอะไรลงไป ความเห็นก่อนๆ หน้า (ถ้าหากไม่ลบหรือแก้ไข) ก็เท่ากับประจานตัวเองต่อสังคมที่นี่ไปแล้ว

2) คุณสร้างโครงการนี้มาเพื่ออะไร?

ประเด็นหลัก คือ ต้องการหาเงินทุนช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาส รองลงมา คือ ให้สมาชิกของขบวนการฯ มีกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน และเปิดตัวขบวนการต่อสาธารณชน

3) ทำไมกองบก.ต้องมี 8 คน แต่ละคนทำหน้าที่อะไรบ้าง?

ในการทำหนังสือ 1 เล่ม องค์ประกอบในการจัดการ มีดังนี้
1..นักเขียนบทความ
2..บรรณาธิการ
3..อาร์ตเวิร์ค
4..บัญชีและการเงืน
5. งานพิมพ์
ความจริงมีอีกส่วนคือ การตลาด แต่ผมขอตัดทิ้งไป เพราะหนังสือเล่มนี้จัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะกิจ เราจำหน่ายได้โดยไม่ต้องวางแผงหนังสืออยู่แล้ว

องค์ประกอบแรก คือส่วนของงานเขียน เราประกาศรับบทความของสมาชิกเสรีไทยผ่านหัวข้อต่างๆ ให้สมาชิกที่สนใจส่งบทความเข้ามาคัดเลือก

งานของคนในทีมบก. หน้าที่หลักและความรับผิดชอบเบื้องต้น คือ งานในองค์ประกอบที่สอง ใครไม่ถนัดทำอะไรเลยก็ไม่เป็นไร ขอให้เข้ามาแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ หรือ คัดค้านก็ได้ เราต้องการมติของที่ประชุมเป็นสำคัญ

ส่วนงานเขียนบทความ งานอาร์ตเวิร์ค เป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและความชำนาญ ถ้าคนในทีมงานจะทำ เราก็ไม่ห้าม พร้อมสนับสนุน แต่ผลงานจะต้องผ่านการพิจารณาของสมาชิกในทีมก่อนจึงจะผ่านไปสู่โรงพิมพ์ได้

ตอนหลังเราโยนงานอาร์ตเวิร์คให้บุคคลภายนอกไปทำโดยการว่าจ้าง ส่วนงานพิมพ์ เราต้องใช้โรงพิมพ์ภายนอกอยู่แล้ว

งานทำบัญชีและรับผิดชอบการเงิน เป็นงานเดียวที่ต้องมีคนดูแลเฉพาะ ต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้เท่านั้น

ผมมอบหมายหน้าที่การทำบัญชีการเงินให้คุณดอกฟ้า และน้องเม่ยดูแลร่วมกันเพราะตอนนั้นพวกเธอสนิทกันมากคิดว่า น่าจะทำงานร่วมกันได้ดี โดยขอให้ทั้งคู่เปิดบัญชีร่วมขึ้นมาเพื่อกันข้อครหา แต่คุณดอกฟ้าไม่สะดวก จึงเหลือเม่ยคนเดียว ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้จักมักจี่เม่ยเป็นพิเศษอะไร แต่เธอเป็นคนหนึ่งที่เข้ามาตอบเมล์ผมประจำไม่เคยขาด ผมจึงต้องยอมรับให้เม่ยดูแลบัญชีคนเดียว คิดอยู่ในใจเหมือนกันว่า ถ้าเธอเกิดหนีไปพร้อมเงินในบัญชี ผมจะทำอย่างไร
แต่ตอนนั้น ผมไม่คิดอะไรมากนัก อยากให้งานสำเร็จลุล่วงก็ต้องไว้วางใจกัน ถ้าผมเอางานการเงินมาดูแลเอง แม้จะโปร่งใสอย่างไรก็ไม่พ้นข้อครหาหรอกครับ
ส่วนงานจัดระเบียบ วางแผน และกำหนดสเต็ปของการทำงานในองค์ประกอบที่สอง ผมเป็นคนออกแบบและให้ที่ประชุมลงความเห็น ใครจะค้านก็ได้ เราใช้เสียงข้างมากตัดสิน ผมเป็นหัวหน้าก็จริง แต่ก็มีเสียงเดียวในที่ประชุมเท่านั้น

การรับสมัครทีมงานเข้ามาทำงาน 8 คน ไม่ได้หมายความว่า ทุกคนจะต้องมีงานในมือทำหมด แค่เข้ามาแสดงความเห็นและลงมติก็ถือว่า ทำงานแล้ว เหตุที่กำหนดไว้ 8 คน เป็นเพราะ..

1..ผมต้องการเสียงโหวตจำนวนหนึ่งในที่ประชุม กันข้อครหาว่างุบงิบทำกันแค่คน-สองคน พูดง่ายๆ ว่า ต้องการพยานรู้เห็นการกระทำของทีมงานนั่นเอง
2..ผมมีประสบการณ์ในการทำงานกลุ่มแบบอาสาสมัครมาหลายครั้งตั้งแต่เป็นนักศึกษาจนถึงปัจจุบั รู้ดีว่า งานอาสาสมัครที่มีผู้ขันอาสามาจากหลายแหล่ง โดยไม่มีการผูกมัดเป็นค่าจ้าง ยากจะผูกมัดการทำงานด้วย
ถ้าหัวหน้างานไม่มีบารมี ลูกน้องไม่อดทนพอ จะลาออกกันไปเองโดยธรรมชาติวิสัยของคน แต่ผมในฐานะเจ้าของโครงการนี้ลาออกไม่ได้ ลาออกงานโครงการนี้ก็ต้องจบ

4) พอจะบอกได้ไหมว่า ทำไมคนในบก.ถึงลาออกกันเยอะ คุณเป็นตัวปัญหาหรือเปล่า?

มีทั้งที่เป็นเหตุผลส่วนบุคคลที่ไม่พร้อมจะทำงานเป็นทีม และที่เกิดจากการกำกับดูแลของผม เพราะทุกอย่างต้องเริ่มที่ผมจะมาจบลงที่ผมไม่ว่าดีหรือไม่ดี เวลาลูกทีมขัดแย้งกัน เขาหวังให้เราเลือกข้างเขา แม้เราจะยืนตรงกลาง เขาก็ว่าลำเอียงอยู่ดี ผลจบลง คือ มีคนหนึ่งต้องเดินจากไปและอีกคนอยู่
คุณไปดูรายชื่อตั้งแต่เริ่มแรกสิหากคุณอยู่บอร์ดนี้มานานพอก็จะรู้ว่า มีเค้าลางของความวุ่นวายเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทันทีที่ประกาศชื่อ ก็มีคนส่งเมล์มาหาเตรียมลาออกแล้วเพราะเขม่นกันมาก่อนในเว็บ

ผมเป็นหัวหน้าทีม ไม่ใช่นายจ้าง พวกเขาเป็นเพื่อน ไม่ใช่เป็นลูกน้อง เราสั่งให้ใครเข้าใครออกไม่ได้ ทุกอย่างเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะตัว
ทุกคนที่ลาออกไปมีเหตุผลส่วนตัวที่ผมไม่ขอพูดถึงดีกว่า คือ โครงการนี้ ผมริเริ่มและต้องรับผิดชอบผลสำเร็จ ถ้าคุณทำงานกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่ได้ จะมีหนึ่งคนลาออกไป แต่ถ้าคุณทำงานกับผมไม่ได้ จะให้ผมเป็นฝ่ายลาออกได้อย่างไรครับ ถ้าผมลาออกก็ต้องปิดโครงการ ใครจะทำอะไรต่อต้องไปขึ้นโครงการใหม่ของตัวเอง

เพราะเราทำงานกับบนเน็ต ไม่ได้พบหน้ากันเหมือนในกองบก.ของสำนักพิมพ์ เวลาผมนัดประชุมและส่งข้อความไป กว่าจะตอบคืนมาหมด ใช้เวลาหลายวัน ที่สำคัญ คือ คนที่ไม่ตอบว่า จะเอายังไง จะทำหรือไม่ทำไม่ส่งข่าวให้เราทราบ ทำให้ต้องกำหนดว่า หากไม่ตอบกลับมาภายใน 3วัน 5วัน เราขอตัดออก ต้องทำเช่นนี้ งานจึงเดิน อย่างนี้ไม่เรียกว่า ไล่ออก แต่ออกตามสภาพ ในจำนวนทั้งหมด มีลักษณะนี้ถึง 3 คน

5) ทำไมบทความของคุณจึงมีมากกว่าคนอื่นๆ คุณใช้อำนาจหน้าที่กำหนดให้เป็นเช่นนั้นหรือเปล่า?

เราไม่มีนักเขียนส่งบทความมามากพอ เรามีบทความถึง 14 เรื่อง แต่นักเขียนไม่ถึง 5 คน จึงต้องมีคนเขียนมากกว่า 1 เรื่อง
แต่เดิมผมต้องการเขียนบทความดังนี้..
--บทนำเรื่องอนาคตของขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด ผมต้องเป็นคนเขียนอยู่แล้วให้คนอื่นเขียนแทนไม่ได้
--บทความทางการเมืองที่มีสาระหนักๆ แสดงจุดยืนของขบวนการในการต่อต้านระบอบทักษิณ 1 เรื่อง
--บทความทางการเมืองเรื่องสนุกๆ เพื่อลดความเครียด 1 เรื่อง
และสุดท้าย คือ บทความเพื่อสังคมของคนที่ด้อยโอกาส 1 เรื่อง โดยในที่นี้ผมเสนอเรื่องราวของการกดขี่ทารุณทางเพศของคนในครอบครัว ซึ่งผมต้องการแสดงจุดยืนตรงนี้ให้สังคมตะหนัก

แม้ผมจะไม่ใด้มีอาชีพนักเขียน แต่กลับเขียนหนังสือเป็นอาชีพ
ผมเป็นที่รู้จักแพร่หลายในสังคมเว็บบอร์ดการเมืองมานานนักสิบปี ก็จากงานเขียนบทความทางการเมืองภายใต้ชื่อ *bonny งานเขียนภายใต้ชื่อนี้เป็นสัญลักษณ์ของการต่อต้านระบอบทักษิณและความไม่เป็นธรรมในสังคมที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว หากใครแย้งก็ลอง search ใน Google ดูสิครับ ขนาดตัดๆ ไปบ้างแล้ว ยังมีงานเขียนของผมนับ 1000 ชิ้น ปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดต่างๆ โดยมีผู้ที่หวังดีและไม่หวังดีนำไปเผยแพร่อย่างกว้างขวาง
ก่อนหน้านี้ นามปากกา*bonny ก็ปรากฏอยู่ในเรื่องสั้นหลายเรื่องในท้องตลาด ทุกเล่มมาขอให้ผมเขียนให้นะครับ ไม่ใช่ผมเสนอหน้าไปเขียน
ถ้าจะทำหนังสือที่ผมริเริ่มสักเล่มหนึ่ง ชื่อ*bonny ในงานเขียนคงไม่ใช่จุดอ่อนของหนังสือหรอกครับ
และถ้าจะมีชื่อ*bonny ในหนังสือเล่มนี้มากกว่าคนอื่นก็คงไม่แปลก แต่จะแปลกมากหากผมไม่ทำหนังสือแต่ไปทำถ้วยกาแฟ หรือ เสื้อคอกลมแทน

ทำหนังสือเล่มนี้ยากตรงหานักเขียนนี่แหละ ใครๆ ก็อยากให้สมาชิกชั้นนำที่ร่วมต่อสู้กันมาโชกโชนอย่าง คุณปุถุชน คุณแคนแคน คุณพระพาย คุณsoco เขียนบทความให้เรา เราเรียกร้องผ่านกระทู้ได้ แต่ความสมัครใจย่อมสำคัญกว่า

เมื่อใกล้กำหนดปิดรับเรื่อง ผมก็พอจะทราบจากกล่องเมล์ว่า มีผู้ร่วมส่งบทความน้อยมาก เรียกว่า ไม่ต้องคัดออกกันเลย คนส่งบทความน้อยกว่าโควต้าที่เรามี และบทความที่ส่งมาแล้ว ผมได้อ่านแล้ว ก็เห็นว่า มีบางบทความเนื้อหาค่อนข้างอ่อน ถ้าเราไม่สร้างงานเขียนขึ้นมาเปรียบเทียบ แต่ให้ทุกบทความตีพิมพ์ได้หมด หนังสือจะไม่ได้ให้อะไรกับผู้อ่านสมกับราคาที่ตั้ง ผมอยากได้งานเขียนที่มีสาระหนักๆ อย่างน้อย 1 เรื่องในแต่ละหมวด

จนถึงสัปดาห์สุดท้าย ในบางหมวดก็ยังไม่มีบทความปรากฏเลย เท่ากับเราต้องตัดหมวดนั้นทิ้งไปโดยปริยาย ผมก็เลยลงมือปั่นต้นฉบับเพิ่มเข้าไปอีก เป็นที่มาของเรื่อง อาหารชาวม็อบ ซึ่งมีอยู่เรื่องเดียวในหมวดนั้น และเรื่องกวีนครที่แต่งร่วมกับดอกฟ้าและเม่ย
ความจริงไม่ใช่ผมคนเดียวนะครับที่มีบทความในหนังสือหลายบทความ นักเขียนอีกคนก็มีจำนวนใกล้เคียงกับผมแต่เขาใช้นามแฝงต่างกันในทุกบทความ แต่ผมใช้ชื่อเดียวตลอด นั่นทำให้มีบทความของผมเยอะ

ผมไม่มีอำนาจอะไรในการกำหนดให้งานเขียนของผมผ่านหรือไม่ผ่านหรอกครับ ทุกอย่างต้องเป็นมติของที่ประชุม
ผมตระหนักเสมอว่า จะต้องมีข้อครหาแน่นอนหากให้โหวตงานเขียนกันแบบซึ่งหน้าเพราะทีมงานจะกลัวขัดใจผมได้หากให้คะแนนบทความของผมน้อยกว่าคนอื่น ผมจึงออกแบบให้ใช้วิธีการโหวตลับโดยใช้ชื่อปลอมในการลงคแนน
ผมได้ให้ทุกคน (เหลือ 4 คน) โหวตให้คะแนนบทความ มีระดับ..A..B..C..D โดยเอ ได้ 4 บีได้ 3 และ ซีได้ 2 และดี ได้ 1 ตามลำดับ

ในแบบฟอร์มการโหวตที่ผมออกแบบนั้น ทุกคนจะใช้ชื่อปลอมและรหัสของตนเองเข้ามาโหวตจึงไม่มีใครรู้คะแนนของแต่ละคน เพื่อป้องกันการ BIAS

ผมได้ให้คะแนนบทความตัวเองไม่เกิน B ทุกบทความ ซึ่งเป็นระดับเส้นคั่นของบทความที่เป็นมาตรฐานกลางๆ โดยคาดหวังว่า ถ้าบทความผ่านออกมา ก็ขอให้ออกมาจากแรงโหวตของคนอื่น ไม่ใช่ของตัวเอง บทความใดของผมที่ผมอยากให้ลงมากที่สุดผมให้ B บทความไหนผมชอบน้อยลงมา ผมให้ตัวเอง C (หลักฐานยังเก็บอยู่ในไฟล์ครับ แต่แปะไม่ได้เพราะจะทำให้สมาชิกที่ส่งบทความคนอื่นเสียหายเรื่องจำนวนคะแนน ผมเชื่อว่า ที่เม่ยก็คงมีสำเนาเก็บเอาไว้เช่นกัน)

ผลปรากฏออกมาว่า บทความของผมผ่านทุกบทความ แต่ผมขอสละเสิทธิ์บทความของผมที่มีคะแนนน้อยที่สุดออก 1 บทความ แล้วเลื่อนของสมาชิกที่คะแนนน้อยกว่าเข้ามาแทน (บทความเรื่องนั้น คือ กรรมของประเทศไทย ซึ่งผมเพิ่งนำไปตั้งเป็นกระทู้ไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหากยังจำกันได้)

ดังนั้น..ที่บอกว่า ผมใช้อำนาจยัดเอาบทความตัวเองลงเต็มไปหมด ก็ขอให้เข้าใจเสียใหม่นะครับ คนที่โหวตให้ผ่านเป็นกรรมการอีกสามท่านไม่ใช่ผมแน่นอน และก็ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกที่มีบทความมากกว่าหนึ่งบท สมาชิกท่านหนึ่งก็มีจำนวนพอๆ กับผม

ในฐานะที่เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ ที่ผมแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามความสามารถที่ผมถนัด แต่ถ้าบทความมันด้อยค่าและรกเกินไป ก็ขอได้รับการขอโทษจากผมด้วยก็แล้วกัน

ในส่วนของบทกวี..
คุณดอกฟ้าและเม่ยเป็นผู้ประสานงานกับนักกวีที่คุ้นเคยกันให้ส่งงานเขียนเข้ามาทั้งหมด ไม่มีการโหวต ส่วนใหญ่แล้วเราให้ผ่านหมดครับ นักประพันธ์บางท่านจึงมีผลงานหลายชิ้น แม้ว่า งานประพันธ์บางชิ้นจะไม่ใช่งานใหม่ที่แต่งขึ้นเพื่อหนังสือเล่มนี้ตามกฎที่เรากำหนด แต่เคยปรากฏอยู่ในเว็บบอร์ดอื่น หรือบล็อกส่วนตัวก็ตาม แต่ผมเห็นว่า ควรอนุโลมได้เพราะผู้ประพันธ์มีน้อย

มาถึงส่วนของภาพประกอบที่เป็นหน้าสี
จำนวนของหน้าสีมีผลต่อราคาหนังสือนะครับ เพราะมูลค่าของการพิมพ์แพงขึ้นเท่าตัวเลยทีเดียว
ตั้งแต่แรก ผมไม่ได้มอบหมายใครดูแลส่วนนี้ เราต้องได้งานเขียนก่อนจึงสามารถกำหนดภาพประกอบได้ เราเหลือกันอยู่แค่ 3 คน ผมให้ทุกคนช่วยกันหารูปที่เกี่ยวข้องกับบทความมาเสนอในที่ประชุม

ในส่วนของผม รูปภาพที่ผมนำมาจากในเว็บต่างประเทศโดนทีมงานตัดทิ้งหมดนะครับ เขากลัวเรื่องลิขสิทธิ์ แต่ภาพที่ไม่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ ก็ถูกตัดทิ้งเช่นกัน เรียกว่า เรื่องรูปภาพนี่ผมหามายังไงก็ไม่ถูกใจที่ประชุม
แต่ผมมีรูปที่ผมทำขึ้นเองอยู่ 3 รูป คือ รูปสองล้นเกล้าปกเกล้าชาวประชา ตั้งใจจะแปะบทกวีคุณอังศนา ..รูปรถถังย่ำประชาธิปไตยตัดหัวหน้าเหลี่ยม อันนี้วาดเอง และรูปเสรีไทยคนหนึ่งเหยียบจมูกหน้าเหลี่ยม ซึ่งวาดเองเช่นกัน
User avatar
*bonny
 
Posts: 23
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:01 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby *bonny » Sat Feb 28, 2009 8:23 am

นี่เป็นภาพสองล้นเกล้าที่คิดว่าจะเป็นภาพประกอบบทกวีเทิดพรเกียรติของคุณอังศนา
Image
User avatar
*bonny
 
Posts: 23
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:01 am

Re: **กระทู้ปิดบัญชีหนังสือ "ยังไงก็ไม่ชิน"**

Postby *bonny » Sat Feb 28, 2009 8:26 am

อันนี้..เสรีชนเหยียบจมูกหน้าเหลี่ยม
Image
User avatar
*bonny
 
Posts: 23
Joined: Tue Oct 14, 2008 8:01 am

PreviousNext

Return to ประกาศเก่า



cron